หนังภาคต่อจาก The Mummy’s Hand ครับ โดยเนื้อเรื่องภาคนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากภาคแรก 30 ปี กล่าวคือปีในหนังนั้นคือปี 1970 ครับ แล้วก็ได้ดาราหลักๆ กลับมา
ทั้งสตีฟ แบนนิ่ง (Dick Foran) และ บีบี เเฮนสัน (Wallace Ford) (ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนนามสกุลของบีบี ทั้งที่ภาคแรกใช้นามสกุลว่า “เเจนสัน” แท้ๆ) 2 พระเอกจากภาคแรก และ เอนโดเฮป (George Zucco) ที่ยังไม่ตายครับ เขายังรอดกลับมาเพื่อส่งต่อแผนร้ายให้กับ เมฮาเหม็ด เบย์ (Turhan Bey) ผู้สืบทอดของเขา ในการปลุกชีพ มัมมี่คาร์ริสขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากการปลุกชีพคาร์ริส เมฮาเหม็ดก็ไม่รอช้าครับ เดินแผนล้างแค้นส่งคาร์ริสไปจัดการสตีฟและบีบีทันที ทีนี้คนดูก็ต้องมาลุ้นกันล่ะครับว่าเจ้าคาร์ริสจะถูกสยบได้หรือไม่ และใครจะเป็นคนหยุดมันได้
ก็เป็นตอนต่อที่ดูได้น่ะครับ เพลินๆ ตามสไตล์หนังเก่า สนุกพอๆ กับภาคแรก (ที่สนุกในระดับเรื่อยๆ) จริงๆ การเดินเรื่องและความลงตัวนั้นอาจยังไม่ดีเท่าภาคแรกครับ แต่หนังได้คะแนนตีตื้นส่วนหนึ่งก็เพราะหนังมีอะไรช็อคความรู้สึกหลายอย่าง เช่น… ขอสปอยล์นะครับ ไม่อยากทราบห้ามอ่านบรรทัดที่เป็นสีน้ำเงินเด็ดขาด
อย่างตัวเอกจากภาคแรกนั้น เขากลับมาเพื่อโดนคาร์ริสฆ่าครับ ทั้ง สตีฟ และบีบี ทำให้เราอึ้งได้เหมือนกัน เพราะปกติตัวเอกในหนังแบบนี้จะไม่ค่อยได้เรียกกลับมาฆ่าสักเท่าไร แต่นี่โดนเก็บหมด ทำให้หนังดูมีลุ้นมากขึ้น เพราะเท่ากับว่าใครก็โดนฆ่าได้หมดล่ะทีนี้
ความสำคัญอีกอย่างของหนังภาคนี้คือ ได้ดาราที่ค่อนข้างมีชื่อในตอนนั้นอย่าง Lon Chaney, Jr มาเป็นมัมมี่ครับ ก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งเป็นมนุษย์หมาป่าใน The Wolf Man และไปเป็นอสุรกายของแฟรงเกนสไตน์ใน The Ghost of Frankenstein ซึ่งเขาก็เล่นได้ไม่เลวล่ะครับ
ก็ถ้าชอบหนังมอนสเตอร์คลาสสิกขาวดำ เรื่องนี้ก็พอดูได้เรื่อยๆ ครับ
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Fantasy, Horror, Monster Movies