จำหนังเรื่องนี้ได้ไหมครับ? (ใครตอบจำได้ ระวังโดน “ดักแก่” นะครับ 555 )
จำได้ตอน The Bodyguard ออกฉายนี่เข้าขั้นฮิตเลยครับ ทำเงินไป $122 ล้านในอเมริกา ถ้าทั่วโลกก็ $411 ล้าน ในบ้านเราก็โกยไปอื้อ มีคนพูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ยิ่งเพลง I Will Always Love You นี่ ตอนนั้นได้ยินบ่อยมาก จนนึกว่าเจ๊ Whitney Houston ย้ายมาอยู่เมืองไทย เพราะไปตรอกซอยหรือห้างไหนก็ได้ยิน ส่วนคนที่พยายามร้องตามหลายรายก็แทบต้องไปพบแพทย์ครับ… ปอดมันจะระเบิดเอา!
ส่วนตัวหนังว่าตามจริงคือดูได้เพลินๆ นะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับสุดยอดจนลืมไม่ลง แต่ถ้าถามว่าทำไมมันฮิตก็คงตอบได้ว่า เป็นเพราะองค์ประกอบมันพอเหมาะพอดีในระดับหนึ่ง
ตัวเอกของหนังชื่อ แฟรงค์ ฟาร์เมอร์ (Kevin Costner) บอดี้การ์ดมือดี อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยลับที่เคยคุ้มกันประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนมาก่อน เขาถูกตามตัวมาปกป้องราเชล มาร์รอน (Houston) นักร้องสาวสุดดัง เพราะมีใครบางคนคอยติดตามเธอและอาจลงมือทำร้ายเธอเมื่อไรก็ได้
หากหนังเอามาฉายสมัยนี้อาจตั้งชื่อประมาณว่า “บอดี้การ์ดหน้าตายกับยัยเซเลบจอมมั่น” น่ะครับ มันคือเรื่องแบบสูตรสำเร็จแบบหนึ่ง แต่ก็อย่างที่ผมพูดเสมอครับ ใช้สูตรสำเร็จน่ะไม่เป็นไรหรอก ขอเพียงทำออกมากลมกล่อมก็พอ และกับหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เลวครับ อันที่จริงผมว่าองค์ประกอบมันพอเหมาะนะ ดารานี่เลือกมาดี Kostner มาดให้สุดๆ กับบทแฟรงค์ ส่วน Houston ผู้ล่วงลับก็ถือว่าน่าจดจำทีเดียวสำหรับการขึ้นจอใหญ่เป็นครั้งแรก 2 คนนี้ก็เล่นได้เข้ากันกำลังดีเลยล่ะครับ
บทที่ Lawrence Kasdan เขียนออกมาจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือแปลกใหม่ครับ แต่เป็นบทประเภทที่ต้องอาศัยความเก่งของดารา และความเก๋าของผู้กำกับ ขอเพียงดาราเล่นกันได้ลื่น ทำให้คนดูจิ้นได้ว่าพระนางเขารักกัน และผู้กำกับเล่าเรื่องให้น่าติดตาม มีลูกเล่นหยอดให้คนดูสนใจเรื่อยๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย
ดาราดีครับ แต่ถ้าพูดถึงลูกเล่นการคุมหนังของผู้กำกับก็อาจต้องบอกว่ายังดีได้อีกพอสมควร ซึ่งคนกำกับก็คือ Mick Jackson ครับ ขานี้เคยทำ L.A. Story ไว้ แม้เรื่องนั้นจะเจ๋งแต่ก็ต้องยอมรับว่าความดีความชอบของหนังต้องยกให้ Steve Martin ไปกว่าครึ่ง (เพราะลุงเขาทั้งแสดงนำและเขียนบทครับ ดังนั้นพวกลูกล่งลูกเล่นต่างๆ ก็ลุง Steve แกนี่แหละที่เนรมิต) ส่วนเรื่องนี้ก็ถือว่าออกมาเรื่อยๆ ครับ แต่ก็ถือว่าเข้าข่าย “ดีได้อีก” นั่นล่ะ
สรุปว่าหนังออกมาเพลินๆ ครับ ดาราเล่นกันชวนให้ติดตาม ชวนให้อิน เสียดายที่ด้านเรื่องราว ด้านบทยังไม่ชวนให้อินขนาดนั้น เลยมีช่วงช้าๆ บ้าง นิ่งบ้างแทรกเป็นพักๆ
ดูเพลิน ดูแล้วมีแอบจิ้น แต่ยัง “ฟินได้อีก” ว่างั้นเถอะ
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Drama, Music, Romance