หนังสือเล่มนี้ถือว่ามีหลายรสผสมรวมกันอยู่ครับ หากว่ากันจากสไตล์แล้ว นี่คือหนังสือเชิงสารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ โดยแต่ละเรื่องก็จะมีแง่คิด มีสาระให้เราค้นหาเพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตของเราได้

นอกจากนี้หนังสือยังมีรสของ “บันทึกการเดินทาง” เพราะระหว่างที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ ผู้เขียนก็จะบรรยายเล่าว่าเขาได้เดินตามรอยประวัติศาสตร์นั้นไปตามสถานที่ต่างๆ อย่างไร หรือบอกกับเราว่าสถานที่ในเรื่องราวนั้น ในวันนี้มีโฉมหน้าเป็นเช่นไรบ้างแล้ว

เนื้อหาในเล่ม ว่าตามจริงล้วนเป็นเรื่องจากอดีต ไม่ว่าจะเรื่องการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ, เริ่องก้าวแรกของการสร้างประเทศสิงคโปร์, การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของจีน ฯลฯ จนหลายคนอาจเกิดคำถามว่ามันเข้ากับชื่อ “ปัญญาอนาคต” ได้อย่างไร

สำหรับผมแล้ว ชื่อนี้เหมาะสมครับ เพราะหนังสือเล่าอดีตให้เราฟัง แล้วพาเรามองมายังปัจจุบัน มองให้เห็นว่า “เหตุการณ์ในอดีต มันส่งผลสืบเนื่องต่อมาอย่างไร”

เพราะจุดที่เราอยู่นี้คือ “อนาคต” ของ “อดีต” นั่นเอง

หากไม่มีวันนั้น ย่อมไม่มีวันนี้

หากอดีตมิได้ก่ออิฐก้อนแรกไว้ มาวันนี้จะเกิดอาคารตระหง่านสูงได้อย่างไร

และหากย้อนมองตัวเรา สิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักก็คือ “ปัจจุบัน คือวาระสำคัญสำหรับอนาคต”

วันนี้เราทำเช่นไร ก็จะส่งผลถึงวันต่อๆ ไป

เช่นเดียวกับวันนี้ที่ถือเป็นผลพวงจากวันวาน

วันนี้ เวลานี้ และปัจจุบันนี้ คือโอกาสอันล้ำค่ายิ่ง

==================================

จริงๆ ผมชอบทุกเรื่องในหนังสือครับ แต่เรื่องที่ชอบที่สุด ต้องยกให้เรื่องของ Paul Smith ครับ โดยขออ้างอิงเนื้อความจากหนังสือดังนี้

“ดังที่พอลเคยบอกไว้เป็นหลักสำคัญในการทำงานว่า
1. จงเริ่มต้นอะไรใหม่
2. ใส่ใจกับความรื่นรมย์
3. การงานไม่ใช่เรื่องชั่วโมงสั้นหรือยาว แต่งานต้องทำทุกชั่วโมง
4. คุณไม่สามารถทำงาน โดยไม่ลงมือทำได้
5. และจงมองหาลู่ทางใหม่ๆ ที่จะแหกกฎเสมอ

“คุณไม่ได้หยุดทำงานเพราะแก่ แต่คุณแก่เพราะหยุดทำงาน”

Paul Smith เคยเป็นเด็กที่อ่านหนังสือช้า อันเนื่องจากโรค Dyslexia แต่ในวันนี้เขากลายเป็นนักออกแบบที่สร้างสรรค์อย่างไร้กรอบและประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษ

และที่สำคัญคือ เขามีความสุขกับสิ่งที่ทำด้วยครับ

และอีกเนื้อหาหนึ่งที่ผมอ่านแล้วชอบ ก็คือ

“จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราออกแบบทุกอย่างได้ ตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ การพักผ่อน การเดินทาง แต่ไม่สามารถออกแบบชีวิต ไม่สามารถออกแบบอนาคตของตนได้ หนังสือหลายเล่มพยายามช่วยคิดหาคำตอบ และช่วยออกแบบสิ่งเหล่านั้น ที่สำคัญเป็นการคิดอย่างเป็นระบบจนจบภายในเล่มเดียว หนังสือจึงเป็นสื่อทางปัญญาที่ทรงคุณค่าและราคาถูกที่สุด

เพียงแค่เราเปลี่ยนหมวดหนังสือที่อ่าน ก้าวข้ามพรมแดนไปสู่ความรู้ใหม่นอกแนวทางที่เราสนใจเราจะได้มุมมองใหม่ และแนวคิดในการแก้ปัญหาใหม่ วิธีมองโลกของเราจะเปลี่ยนไป เราจึงจำเป็นต้องละทิ้งสิ่งเก่า ทั้งความทรงจำ ความเจ็บช้ำ กระทั่งหนังสือไว้เบื้องหลัง แล้วลองมองหาหนังสือใหม่ สร้างหมวดหมู่ขึ้นมาใหม่ สร้างวินัยในการอ่าน เพียงใช้เวลาไม่นาน โลกทัศน์ของคุณจะเปลี่ยนไป และช่วยให้คุณมองโลกได้กว้างขวางและสนุกสนานขึ้น”

เพราะแบบนี้แหละครับ ผมถึงรักการอ่านเรื่อยมา ^_^

==============================

อ่านบ้านๆ ลำดับที่ 89
FUTURE ปัญญาอนาคต

ผู้เขียน: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
สำนักพิมพ์: openbooks

=======================================

สนใจหนังสือเล่มนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ครับ
https://www.10000tipbook.com/p/7556