หากให้สรุปสั้นๆ สำหรับเล่มนี้ ก็ต้องบอกว่าผมอ่านแล้วชอบครับ ออกตัวก่อนว่าผมชอบอ่านหนังสือของ Brian Tracy เพราะอ่านแล้วเข้าใจง่าย เอาไปทำได้เลย (ถ้าเราตั้งใจจะทำจริงๆ น่ะนะครับ) เนื้อหาก็จะเป็นแนวให้พลัง ปรับมุมคิด ฯลฯ และส่วนหนึ่งอาจเพราะหนังสือแนวพัฒนาตนเองเล่มแรกที่ผมอ่าน คือผลงานของเขานั่นเอง
ผมมองว่าสำหรับหลายๆ คนที่มีความมั่นใจสะสมมาตั้งแต่เด็ก มีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย มีึครูสอนดีๆ มีพ่อแม่สอนดีๆ มีคนแนะแนวทางให้ หรือเจอจุดเปลี่ยนจนสามารถฉุกคิดอะไรบางอย่าง จนตั้งหลักพัฒนาตนเองได้แต่วัยเยาว์ หนังสือเล่มนี้ (หรือแนวนี้) ก็อาจอยู่ในหมวด “ไม่ต้องอ่านก็ได้” เพราะสิ่งที่หนังสือบอก คือสิ่งที่ท่านสามารถรู้ได้ เรียนได้ และเข้าใจได้ จากการใช้ชีวิตอยู่แล้ว
แต่สำหรับคนที่โตมาโดยไม่มีใครบอกแนะชี้ทาง (ไม่ว่าจะเรื่องความคิด, การเงิน, บุคลิกภาพ, ทัศนคติ ฯลฯ) และไม่ค่อยได้มีโอกาสในการสะสมความมั่นใจในช่วงตอนต่างๆ ของชีวิต หนังสือแนวนี้ก็จะเป็นดั่งครูหรือเพื่อน ที่จะแนะแนวให้เรามีหลักคิด มีสติ มีพลังในการดำเนินชีวิต และเป็นเหมือนบ่อน้ำที่เติมพลังให้เราเป็นระยะๆ
เพราะมันย่อมมีวันที่เราเหนื่อย ท้อ หรือสับสน วันที่เราพลังลด การ์ดตก (หรือบางคนอาจถึงขั้น “จิตตก”) – ทำให้ข้อความแนวคิดในหนังสือแนวนี้ มีความสำคัญครับ เพราะมันจะช่วยเราในการตั้งหลัก-ดึงสติ-กอบรวมพลัง ทำให้เรากลับมายืนและก้าวเดินต่อไปได้
ที่ผมเข้าใจหัวอกคนกลุ่มนี้ ก็เพราะผมก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนครับ ผมโตมาแบบ “เรื่อยๆ” พ่อแม่ทำงานตลอดเวลาจึงทำให้พวกท่านแทบไม่มีโอกาสถ่ายทอดประสบการณ์หรือวิธีการคิดให้กับผม ผมก็ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆ ไม่ได้จริงจังกับชีิวิตหรือการทำอะไรเท่าที่ควร
จนกระทั่งพบเจอกับช่วงวิกฤติ เจอกับปัญหาและความสับสน ในตอนนั้นเองจึงได้เริ่มหันมาตั้งหลักเรียนรู้วิชาชีวิต แล้วชีวิตหลังจากนั้นก็ดีขึ้น มั่นคงขึ้น สามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น
เพราะเหตุผลเหล่านั้นเอง ผมจึงรู้สึกว่าการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
ผมจึงมักจะชอบอ่านหนังสือแนวนี้ และพูดถึงหนังสือแนวนี้อยู่บ่อยๆ เพราะชีวิตผมส่วนใหญ่ก็ง่วนอยู่กับหนังสือแนวนี้ และพูดได้เลยว่าถ้าไม่ได้อ่านหนังสือ (ทั้งแนวนี้และอีกหลายๆ แนว) ผมคงไม่มีวันนี้ครับ ^_^
ทีนี้ขอเข้าเรื่องหนังสือนะครับ หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว ก็มีสิ่งที่อยากพูดถึงอยู่ 10 เรื่องด้วยกันครับ
1. “เริ่มแรกเราสร้างนิสัยให้ตัวเอง แล้วหลังจากนั้นนิสัยจะเป็นสิ่งสร้างตัวเรา”
John Dryden
2. ความจริงก็คือ พวกนิสัยแย่ๆ ทั้งหลายนั้นสร้างได้ง่าย แต่มันทำให้ชีวิตของคุณยาก ส่วนพวกนิสัยดีๆ นั้นสร้างได้ยาก แต่มันจะทำให้ชีวิตของคุณง่าย
3. “มีข้ออ้างนับพันสำหรับความล้มเหลว แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยสักอัน”
Mark Twain
4. พิจารณาให้ดีว่าเรานั้นชอบหาเหตุผลโยนความผิดให้คนอื่นหรือไม่ เช่น ที่เราต้องมีชีวิตแบบนี้เพราะพ่อแม่ เพราะเหตุการณ์วันนั้น เพราะคนๆ นั้น เพราะบริษัทๆ นั้น ฯลฯ ต่อให้สิ่งเหล่านั้นจะมีผลแย่ๆ ต่อชีวิตเราจริงๆ ก็ตาม แต่การพร่ำย้ำมันไม่ได้ช่วยอะไร สิ่งที่เราควรทำคือหาทางทำให้ตนเองกลับมามีอำนาจในการกุมบังเหียนชีวิตตน
ไบรอัน เทรซี่มักบอกเสมอให้เราบอกกับตัวเองว่า “ฉันรับผิดชอบเอง” เพื่อพาให้เรากลับมาสู่ตำแหน่ง “คนขับ” คนที่สามารถควบคุมวิถีทางให้กับชีวิตตนเอง
“แทนที่จะใช้สมองอันล้ำเลิศของคุณคิดหาข้ออ้างหริอหาสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกด้านลบโดยพุ่งเป้าไปที่ใครบางคน ซึ่งคุณคิดว่าเขาเป็นสาเหตุของสถานการณ์ในตอนนี้ คุณเอาสมองอันล้ำเลิศนั้นมาคิดทบทวนดูดีกว่าว่าคุณเองคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อสถานการณ์ลบๆ ทั้งหมดที่ผ่านมาและที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตตอนนี้”
5. “จงหันหน้าไปหาแสงสว่างเสมอ แล้วปล่อยให้เงาทะมึนทอดไปเบื้องหลัง”
Walt Whitman
6. อย่าทำอะไรหรือไม่ทำอะไร เพียงเพราะว่าคุณกลัวคนอื่นจะคิดกับคุณอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงก็คือ ไม่มีใครคิดอะไรกับคุณทั้งนั้น
7. “เป้าหมายไปถึงได้ โดยใช้แผนงานเป็นยานพาหนะ ความเชื่ออย่างสุดใจ และการกระทำอย่างสุดกำลัง” Pablo Picasso
“ถ้าคุณยังไม่ชัดเจน ยังไม่มั่นใจว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องทำก่อน คุณก็มักจะจบลงด้วยการทำสิ่งที่มีคุณค่าน้อยๆ ก่อนเสมอ หรือไม่ก็ไม่ทำอะไรเลย”
8. ยาแก้ความสงสัย และยาลดความไม่มั่นใจในตนเอง คือ ความรู้ ยิ่งมีความรู้ด้านในมาก ก็จะยิ่งลดความลังเลสงสัยที่มีต่อเรื่องนั้นๆ (เพราะเรารู้มากขึ้น-แต่แน่นอนว่า เราต้องเรียนรู้ให้ถึงพร้อมและรอบด้านเพียงพอที่จะแน่ใจได้ว่าสิ่งที่เรารู้และข้อมูลที่เรามีนั้นถูกต้องจริงๆ)
และยาแก้ความกลัวในการทำอะไรสักอย่าง ก็คือ ทักษะฝีมือ หากเราทำมันซ้ำๆ ล้มบ้างลุกบ้างเพื่อเพิ่มประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ นานพอ เราก็จะกลัวน้อยลงเรื่อย แต่แน่นอนว่าหากเราไม่ฝึกและมัวแต่กลัว สุดท้ายมันอาจกลายเป็นจุดอ่อนที่คุณไม่อาจก้าวข้ามได้ไปจนตลอดชีวิต
9. Steve Jobs บอกว่า “คุณอย่าไปยึดติดกับความคิดว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร คุณควรไว้ใจให้แต่ละจุดเชื่อมโยงต่อกันไปในอนาคต”
งานของคุณคือการเชื่อมโยงจุดให้มากขึ้นเรื่อย และเรียนรู้สิ่งใหม่
10. “ฉันตั้งใจไว้ว่าทุกคืนที่เข้านอน จะต้องฉลาดขึ้นกว่าตอนตื่นนอนเมื่อเช้า”
==============================
อ่านบ้านๆ ลำดับที่ 87
หยุดพูดแล้วลงมือทำซะ
Just Shut Up and Do It: 7 Steps to Conquer Your Goals
ผู้เขียน: Brian Tracy
ผู้แปล: วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ
สำนักพิมพ์: Move Publishing
=======================================
สนใจหนังสือเล่มนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ครับ
https://www.10000tipbook.com/p/9535
หมวดหมู่:จิตวิทยา - How to, รีวิวหนังสือ