รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

The Swarm (1978) 13 พันล้านผึ้งนรก

1381853983

ผลงานการสร้างและกำกับโดย Irwin Allen เจ้าพ่อหนังแนวผจญภัยและภัยพิบัติที่ขยันทำหนังแนวนี้ออกมา ที่โด่งดังก็มีอย่าง Voyage to the Bottom of the Sea, ซีรี่ส์ Lost in Space และ The Poseidon Adventure เป็นต้นนะครับ ส่วนเรื่องที่ผมกำลังพูดถึงนี่คืองานยุคหลังที่เริ่มไม่ดังและไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร

แต่กระนั้นผมก็จำเรื่องนี้ได้ดีครับ รอบแรกที่ได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้ก็ตอน Big Cinema เอามาฉาย ฟังชื่อแล้วมันอลังการดีครับ “13 พันล้านผึ้งนรก” โอ้โห ตอนนั้นยังเด็กครับ พอได้ยินจำนวนตัวเลขตั้ง 13 พันล้าน มันเยอะ มันน่าสนุก และพอดูตอนเด็กนั่นมันก็ยังพอเพลิน (แบบไม่ใคร่จะจำอะไรเกี่ยวกับหนังได้นัก จึงพอสรุปได้ว่า ดูเพลินแต่ไม่ได้ติดใจ) ครั้นพอโตมาก็ดูอีกสักรอบ รำลึกอดีต

ภัยพิบัติประจำหนังเรื่องนี้ย่อมหนีไม่พ้นผึ้งครับ ผึ้งเพชฌฆาตพันธุ์แอฟริกันที่จู่ๆ ก็มารวมตัวกันเป็นจำนวนมากในแถบชานเมือง ซึ่งแบรด เครน (Michael Caine) นักกีฏวิทยาหนุ่มได้ค้นพบความจริงอันน่าตระหนกนี้ แล้วเขาก็พยายามหาทางป้องกันไม่ให้อันตรายรุกรานมาสู่ตัวเมือง แต่แล้วก็เหมือนหนังสไตล์นี้น่ะครับ เมื่อคนบางคนไม่ใส่ใจคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระที่ผึ้งจะมาบุกเมือง จนในที่สุดกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้วครับ

หนังลงทุนไป 21 ล้านเหรียญ แต่ทำคืนมาแค่ 10 ล้านเหรียญก็เป็นตัวบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างครับ ซ้ำยังโกยคำบ่นมาเพียบ ขนาดเวที Razzy ยังยกให้เป็น 1 ใน 100 หนังที่น่าผิดหวังตลอดกาล

ส่วนผมนั้นก็ไม่ถึงกับจะสับหนังขนาดนั้นหรอกครับ คือตัวหนังมีจุดอ่อนสำคัญคือความอืดเอื่อยเกินไป การเดินเรื่อง การนำเสนอมันธรรมดา ไม่ได้มีอะไรชวนลุ้นหรือตื่นเต้น เพราะความตื่นเต้นมันจะไหลมาได้ก็ต้องรอผึ้งบุกก่อน ซึ่งกว่าผึ้งจะมาเราก็จะเจอกับพล็อตประจำของสูตรหนังแนวนี้ ไม่ว่าจะพระเอกจ๋าที่พยายามจะแก้ปัญหาแบบเกินร้อย แต่ก็ยังมีคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมฟังอะไรเลย เอาแต่เดินหน้าทำอะไรก็ตามแบบเอาแต่ได้ (ซึ่งการกระทำนั้นก็มักจะกระตุ้นให้เกิดภัยพิบัติอยู่ร่ำไป) มีผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องมาตายอย่างน่าสงสารก่อนที่หายนะครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นจริงๆ

the-swarm-feature

จุดที่น่าพอใจสำหรับผมคือตอนผึ้งบุกน่ะครับ มันดูวุ่นวาย อันตราย น่าสะพรึงพอสมควร แต่ด้วยความที่กว่า 3 ใน 4 ของหนังมันไม่ค่อยไปไหน เนื้อเรื่องวนๆ ตัวละครเวียนๆ ไม่คืบหน้าเท่าไร จึงทำให้ผลรวมของหนังออกมานิ่งเกินไป (หลายคนอาจถึงขั้นเบื่อได้) ซึ่งหนังฉบับฉายโรงนั้นยาวประมาณ 2 ชั่วโมงครับ แต่ตอนออกแผ่น DVD เราก็จะได้ดูฉบับเต็มนั่นคือยาว 2 ชั่วโมง 35 นาที ซึ่งดีกรีความอืดก็ยิ่งหนักขึ้นไปอีก แต่ก็พอเข้าใจในเจตนาของ Allen ครับ ที่เขาพยายามถ่ายทอดเหตุการณ์หายนะครั้งนี้แบบเป็นขั้นเป็นตอน ให้มันดูมีเหตุผลและมีหลักการมากที่สุด (แต่คงจะดีครับ หากการเล่ามันเร้ากว่านี้ มันกระตุ้นให้รู้สึกน่าติดตามมากกว่านี้)

กลายเป็นหนังแนวภัยพิบัติที่ยังไม่สนุกเต็มที่ครับ แม้จะได้ดาราดังๆ มาเต็มจอ (ตามสไตล์หนังแนวนี้) อย่าง Caine, Katharine Ross, Richard Widmark, Richard Chamberlain, Olivia de Havilland, Lee Grant, Bradford Dillman และ Henry Fonda แต่ก็นั่นล่ะครับ ในเมื่อหนังออกมาธรรมดา ผลที่ได้ก็เลยธรรมดาตาม

ไม่ถึงสองดาวครับ

Star12

(5/10)