รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Just Friends (2005) ขอกิ๊กให้เกินเพื่อน

cyih5NtdEXF0uSGWJFWgiIEQknb

พล็อตทำให้นึกถึงเพื่อนสนิทขึ้นมาเลยครับ หนังเล่าถึง คริส แบรนเดอร์ (Ryan Reynolds) ไอ้หนุ่มอ้วนต๊ต๊ะที่มีเพื่อนสนิทชื่อ เจมี่ พาลามิโน่ (Amy Smart) สาวน้อยสุดสวยที่ทำให้คริสใจเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เจอ แล้วในคืนส่งท้ายก่อนจบการศึกษา เขาคิดจะสารภาพรักกับเธอ … แต่ผลลงเอยกลับกลายเป็นความอายอย่างมหาศาล โธ่ น่าสงสารจริงๆ

หลายปีผ่านไป คริสจัดการเปลี่ยนตัวเองใหม่เป็นหนุ่มหล่อไร้พุง ล่ำกระชากใจสาว ซ้ำยังมีงานการทำในวงการบันเทิง อนาคตไกลเชียวล่ะครับ แต่ก็มีเหตุให้เขากลับมาเยี่ยมบ้าน และพบเจอกับเจมี่อีกครั้ง … แล้วมันจะเป็นอย่างไรหว่า เพราะเขาไม่ได้มาคนเดียวครับ เขามาพร้อมนักร้องสาวสุดเซ็กซี่ขวัญใจประชาชนที่รอหาเรื่องงาบเขาทุกวัน นามว่าซาแมนต้า เจมส์ (Anna Faris) ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไปเจอกับมารหัวใจ ดัสตี้ ดิงเกิ้ลแมน (Chris Klein) ที่หมายจะครองหัวใจของเจมี่เหมือนกันด้วย

หนังก็ลงอีกหรอบ ตลก เฮฮา เพลิดเพลินอีกเรื่อง แต่ดูสนุกครับ คนที่จ้องยกนิ้วให้เลยคือ Reynolds ที่เป็นพระเอกเรื่องนี้ได้เหมาะสมมาก เล่นดี ท่าทางตอนอ้วนนี่ไหลมาก ดูออกเลยครับว่าจะทำอะไรทีก็ไม่มีความมั่นใจ เปิ้บป้าบไปหมด แต่ท่านต้องดูที่แววตาครับ Reynolds แสดงออกชัดมากทางตาเมื่อมองเจมี่ บ่งบอกว่าเขารักเธอไม่ใช่แค่รูปกาย เขารักเธอที่เธอเป็นเธอ ท่าทางดูแล้วเชื่อว่าหมอนี่รักเธอจริงๆ น่ะครับ

พอถึงตอนเล่นเป็นคนผอมก็ดูมาดมั่นขึ้นมาเชียว หล่อเท่ห์ แต่ก็ยังบ่งบอกถึงความรักที่เขามีต่อเอมี่ได้อยู่ดี

หนังโรแมนติกมันตัดสินกับตรงนี้แหละครับ เรื่องที่ดูแล้วเชื่อว่าพระเอกชอบนางเอก ดูแล้วรู้สึกว่าสองคนกำลังสื่อภาษาบางอย่างถึงกัน เป็นอันผ่านเกณฑ์

Smart ก็รับบทสไตล์เดิมๆ น่ะครับ สาวคนดีที่น่ารัก นิสัยดีจนคนไหนเข้าใกล้ก็อดจะรักไม่ได้ บททำนองนี้เธอเล่นบ่อยแล้วล่ะครับไม่ว่าจะ Road Trip หรือ The Butterfly Effect ก็แบบนี้แหละ

MV5BMTc4NjI0MzU1NF5BMl5BanBnXkFtZTcwNDc2NjQ0NA@@._V1_SX1500_CR0,0,1500,999_AL_

Klein จากบทพ่อหนุ่มแสนดีใน American Pie สองภาคแรกก็พลิกไปพอตัวครับ กับบทที่ตีสองหน้า แกล้งทำตัวดี แต่เอาเข้าจริงดันไม่ใช่อย่างที่เห็นเสียนี่ ก็เล่นได้สบายๆ

ส่วนคนที่ผมประทับใจสุดคือ Faris เธอมาเพื่อบ้าโดยเฉพาะครับ ฮาตลอดเพราะยัยนี่นี่แหละ

คนนั่งเก้าอี้กำกับคือ Roger Kumble แห่ง Cruel Intentions สองภาคแรก และ The Sweetest Thing ซึ่งแต่ละเรื่องนั่นออกจะเน้นประเด็นเซ็กซ์ค่อนข้างโจ๋งครึ่ม มาเรื่องนี้ก็ทำผมแปลกใจหน่อยที่มันแค่สัปดนเล็กน้อยเท่านั้น นอกนั้นโทนหนังดูเบาลง (เรต PG-13 เท่านั้นเอง) แล้วเขาก็ปรับเรื่องราวให้มันออกมาในแนวโรแมนติกได้สำเร็จน่ะครับ ซึ่งนับว่าน่าปรบมือให้ เพราะผู้กำกับหลายคนเห็นวัยรุ่นชอบหนังทะลึ่ง แต่ตัวเองได้รับมอบหมายให้มาทำหนังโรแมนติกนัก สุดท้ายเลยยัดลงไปทั้งโรแมนติกทั้งทะลึ่ง จนหนังเลอะเทอะจับไม่ติดสักอย่าง โรแมนติกก็หาย มุขฮาก็แป้ก

แต่กับเรื่องนี้ถือว่าเพลินครับ ดูสบาย ฮาก็มี โรแมนติกก็พอสมผัสได้แม้จะไม่มากมายจนหวานจ๋อย ก็ยังออกรสกำลังดี

อีกอันหนึ่งที่ผมชอบคือหนังสอนคนอกหักให้ยืนหยัดได้อย่างน่าชื่นชมครับ ในตอนแรกฉากแรกเราเห็นชัดๆ ว่าพระเอกอกหัก รักคุดแบบไม่สมหวัง แต่แทนที่พี่แกจะคิดบ้าๆ ฟังเพลงแทงข้างหลังสะดุ้งถึงหัวใจ (555) คิดเศร้าคิดสั้นแตก่เปล่าครับ เขาเดินทางไปสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง ทำให้ตัวเองมีค่า

จึงอยากเป็นกำลังใจให้นะครับ รักคนอื่นได้ แต่อย่ารักตัวเองน้อยลง ถ้าเราพลาดหวังให้เราเบนจิตใจไปทำอย่างอื่นให้มันดี อย่างผิดหวังเรื่องนี้ก็มาทุ่มเรื่องงานเรื่องเรียนเอาให้มันดีไปเลย ลองว่าเราแน่เราเก่งแล้วจะไม่มีใครมองเราให้มันรู้ไปสิเอ้า

สรุปอีกที หนังดูเพลินสนุกสนานครับ ไม่ผิดหวัง

สองดาวกว่าครับ

Star21

(6.5/10)