รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Lost Souls (2000) ดูดชีพดูดวิญญาณ

Lostsoulsposter

ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเปลี่ยนสหัสวรรษนะครับ หนังว่าด้วยการสิ้นโลกก็ผุดพรึ่บพรั่บเต็มไปหมด และแนวที่ฮิตมากๆ ก็คืออะไรก็ตามที่ว่าด้วยซาตานกลับมาครองโลก

ไม่รู้ว่าจะเรียกบังเอิญได้หรือเปล่า เพราะมีคำกล่าวกันว่าซาตานไม่เคยยอมแพ้ที่จะทำให้โลกหม่นมืด การจะกลับมาสร้างความหายนะให้กับโลกและบุตรของพระเจ้าทำได้หลากวิธี ไม่ใช่แค่หนึ่งครั้งแล้วเลิกล้มไป เขาเลยมักจะกลับมา กลับมา กลับมาเสมอที่มนุษย์อ่อนศรัทธาและสงสัยในการมีตัวตนของพระเจ้า

ดูท่าว่าช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษนี่มนุษย์คงปั่นป่วนอลหม่านมากแหงๆ ซาตานเลยขึ้นจอตั้งมากมายหลายเรื่อง

Lost Souls นี้ว่าด้วยเรื่องของซาตานกลับมาครองโลกอีกนั่นแหละครับ เป้าหมายคือมาครองร่างของมนุษย์นายหนึ่งนามว่า ปีเตอร์ เคลสัน (Ben Chaplin) แต่แน่นอนล่ะครับ มนุษย์เราก็ต้องมีฝ่ายคนดีมาคอยต่อกรยับยั้งการคืนชีพของซาตาน ซึ่งก็คือ มายา ลาร์กิน (Winona Ryder) สาวน้อยที่เคยโดนปีศาจสิงสู่จนแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่ได้รับการช่วยเหลือจากคุณพ่อลาร์เร็กซ์ (John Hurt) เธอเลยอุทิศตนต่อต้านเหล่าปีศาจนับแต่นั้น

แต่การจะต่อกรกับความชั่วหาได้ง่ายไม่ เพราะซาตานย่อมมีผู้สนับสนุนที่รอคอยการกลับมาทุกหัวระแหง งานนี้คนดีเลยโดนตามล่ารุมทึ้ง แล้วซาตานจะทำให้ปีเตอร์กลายร่างเป็นผู้ต้านพระคริสต์สำเร็จหรือไม่ อันนี้เดากันดูนะครับ

ว่าตามจริงหนังมีดีน่าสนใจอยู่ตรงได้นักแสดงสาวอย่าง Ryder มาพลิกบทบาทเป็นสาวโทรมที่ทำท่าทีเคร่งเครียดตลอดเวลาแล้วยังต้องมาต่อกรกับซาตานอีกต่างหาก นอกจากนี้ผู้กำกับก็ไม่ใช่ธรรมดา เขาคือ Janusz Kaminski ตากล้องคู่ใจ Steven Spielberg ที่จับมือกับสร้างภาพเฉียบๆ จาก Schindler’s List เป็นต้นมา ล่าสุด Indiana Jones ภาค 4 พี่แกก็ตามไปเป็นตากล้องเช่นเคย

ถ้าทำดีก็แจ้งเกิดกันไป เพราะผู้กำกับมากมายเกิดเพราะถ่ายภาพได้ดีนี่แหละ แต่คงไม่ใช่กับพี่ Janusz และคงไม่ใช่เรื่องนี้

โอเค ที่นับว่าพอกล้อมแกล้มมีเพียงภาพที่ใช้ได้ ไม่เสียชื่ออดีตตากล้อง มีความหม่นมืด โทรมสุดๆ เจออยู่ในฟิล์มตลอด ดูไปแล้วพาลอยากจุดเทียนหรือไม่ก็เปิดไฟฉายให้มันรู้แล้วรู้รอด มันมืดเหลือเกิน ยิ่งในโรงมืดๆ (ดูสมัยเข้าโรงน่ะนะครับ) ยังนั่งนึกขำๆ ถ้าทำเศษเหรียญหล่นล่ะไม่ต้องหาแน่ๆ

นั่นแหละครับความดีเพียงประการเดียวของหนัง ความหม่นมืดกับโทนบรรยากาศที่แสนจะอึมครึม (ใครตากผ้าไว้ตอนดูคงอยากกลับไปเก็บแน่ๆ)

นอกนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะจืดได้ขนาดนั้น เรื่องบทเลยครับ คืองงอย่างแรง มันเล่นกันง่ายมาก เป็นส่วนผสมระหว่าง The Exorcist บวกกับหนังสยบซาตานอย่าง End of Days อย่างใน End of Days มันยังพอมีแอ็กชันบ้าง แต่เรื่องนี้ไม่มีครับ ไม่ได้มีร่ายมนต์ตีกัน มีแค่ทำพิธีไล่ผีเท่านั้นเอง และก็เทียบกับต้นฉบับอย่าง The Exorcist ไม่ได้แม้แต่น้อย ผมเข้าใจว่าหนังพยายามใช้ความมืดกดดันคน แต่ไม่สำเร็จครับ เพราะมันมุขเดิมๆ มากกว่า มีตึ่งมีแฮ่ตะลุ่งตุ้งแช่แล้วก็เท่านั้นเอง

ยิ่งบทสรุปของเรื่องทำเอาผมงงหนัก คือพี่เล่นง่ายอย่างนี้เลยเหรอครับ

สรุปคือเรื่องราวง่ายจนเหมาะเอาไปทำเป็นหนังทีวีมากกว่าครับ เฉยอย่างแรง เดาได้ไม่ว่า แต่ความน่ากลัวก็ไม่เท่าไหร่ ด้านนักแสดง … จริงๆ หนังได้ดาราระดับดีๆ มานะครับ ไม่ว่าจะ Ryder, Philip Baker Hall, Hurt และ Elias Koteas แต่บทไม่ส่งให้ทำอะไร เลยกลายเป็นการออกมาปั้นหน้าบึ้งทั้งเรื่องเท่านั้นเอง

ตัวหนังก็ประสบความวืดตอนออกฉาย จริงๆ มีแววไม่ดีมาตั้งแต่ก่อนฉายด้วยครับ เพราะเริ่มแรกหนังโดนวางโปรแกรมไว้ช่วงซัมเมอร์ปี 1999 เรียกว่าเตรียมรับปี 2000 เต็มที่ แต่แล้วก็โดนโยกไปเดือนตุลาคม กลิ่นก็เริ่มไม่สดชื่นแล้วฮะ โดนเลื่อนแบบนี้ แล้วอาจจะเรียกว่าหนีเสือปะจระเข้ เพราะเหตุที่เลื่อนก็เพื่อหนีหนังฟอร์มใหญ่ประจำซัมเมอร์ แต่ดันเลื่อนมาเจอหนังแนวเดียวกันที่ฟอร์มใหญ่กว่าไม่ว่าจะ Stigmata และ End of Days งานนี้ Lost Souls ก็ขนลุกซู่ เลื่อนตัวเองไปอีกรอบเพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้เรื่องความยิ่งใหญ่ และเหนืออื่นใด จากประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ที่ผ่านมา หนังแนวคล้ายกันที่ออกฉายไล่ๆ กันมักกอดคอกันล้มมากกว่าจะรุ่ง

เหตุนี้ Lost Souls เลยหนียาวไปเดือนกุมภาพันธุ์ปี 2000 ซะเลย … แต่อย่าคิดว่าเรื่องจะจบนะครับ เพราะมีเหตุให้เลื่อนอีก เนื่องจากช่วงวันที่หนังวางไว้ดันไปตรงกับภาคสุดท้ายของหนังชุด Scream พอดี (ภาค 3) ก็เอาอีกแล้วครับ โดนโยกอีกหนึ่งคำรบไปเดือนตุลาคมปี 2000 และอย่านึกว่าได้ฉายสบายๆ นะ เพราะขนาดโยกไปตอนนั้น ยังเหมือนมีเวรมีกรรม เพราะวันฉายดันไล่ๆ กับหนังเก่าที่เอามาฉายใหม่เรื่องหนึ่ง … The Exorcist ฉบับใหม่ไงครับ

บทสรุปแทบไม่ต้องร่ายให้มากความ หนังเจ๊งจนไม่รู้จะเจ๊งอย่างไร ยิ่งมาโดนต้นฉบับหนังผีสิงฉายข้างโรงแบบนี้ ผลออกหัวหรือก้อยคงเดากันได้

นี่ไม่ใช่หนังคุ้มค่าน่าดูครับบอกได้เลย แต่ผมก็อุตส่าห์ขวนขวายไปดูตอนมันเข้าโรงนะ แหม ขยันจริงๆ เลยเรา

ถ้าให้เทียบล่ะก็ เอา Stigmata มาดูดีกว่า สนุกเข้าท่ากว่ากันหลายขีด

ไม่ถึงสองดาวครับ

Star12

(5/10)