รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Harlem Nights (1989) จริงรึ…เขาลือว่าพี่แน่

Harlem-nights-poster-1

เรามาย้อนรอยหนังเก่าๆ ให้หมดไส้หมดพุงเลยนะครับ แต่คาดว่าคงหมดยากเพราะมีอีกเพียบเหลือเกินในสต็อก ทั้งชีวิตไม่รู้จะสรรหามาเล่าได้หมดหรือเปล่า

นี่ก็เป็นภาพยนตร์ย้อนยุคไปสู่ช่วงสมัยเจ้าพ่อมาเฟียเรืองอำนาจ แบบ The Godfather น่ะนะครับ เปิดมาก็แนะนำให้รู้จักกับซูการ์ เรย์ (Richard Pryor) ที่เกิดโดนคู่อริเล่นงานเข้า แต่โชคดีที่มีเด็กน้อยคนหนึ่งโผล่มาช่วยเขาเอาไว้พอดี เขาเลยไม่รอช้าครับรับเด็กคนนี้ไว้เป็นลูกเลี้ยง พร้อมให้ชื่อว่า ควิก

20 ปีต่อมาควิกก็โตเป็นหนุ่ม (Eddie Murphy) ทั้งควิกและพ่อเลี้ยงอย่างเรย์ก็กำลังสุขโขสโมสร เพราะกิจการบาร์คลับที่ตัวเองทำไว้ในย่านฮาร์เลมของนิวยอร์กกำลังเจริญงอกงามสุดๆ แต่แล้วก้มีเจ้าพ่อผิวขาวจอมโหดนามว่าบั๊กซี่ คัลฮูน (Michael Lerner) ผู้มาพร้อมอิทธิพลที่เหนือกว่าพ่อลูกคู่นี้มากมายนักต้องการเข้ามาฮุบกิจการทั้งหมอของสองพ่อลูก ซ้ำยังมีนายตำรวจฟิล แคนโทเน่ (Danny Aiello) คอยให้ความช่วยเหลืออีก งานนี้ควิกเลยต้องระดมสมองหาทางรับมือ เพราะพวกเจ้าพ่อนี่เล่นกันโหด ถึงเลือดถึงเนื้อ

เป็นความฝันของ Murphy ที่อยากจะกำกับและแสดงในหนังพีเรียดสักเรื่องนะครับ ตอนนั้นเขาก็กำลังชื่อร้อนอยู่ เล่นหนังดังอย่าง Beverly Hills Cop และ 48 Hrs. แล้วก็สบายไปหลายปีทีเดียว น้ำขึ้นให้รีบตักว่าอย่างนั้นเถอะ ก็เลยใช้อำนาจต่อรองทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา

สไตล์หนังมันผสมครับ เป็นเจ้าพ่อที่จริงจังพอประมาณ แต่ไม่ได้เครียดขึงเท่า The Godfather ผมถือว่ามันเป็นกึ่งกลางระหว่างหนังเจ้าพ่อสไตล์ Francis Ford Coppola และสไตล์ Martin Scorsese ครับ นั่นคือสมจริง แต่ไม่เลือดนอง อีกอย่าง Murphy ทำจะให้เป็นแนวเลือดสาดก็ใช่ที่ มันก็กึ่งๆ ตลกแหละครับ

ตัวหนังดูได้เรื่อยๆ แหละครับ ไม่ถึงกับสนุกเต็มที่ เพราะมันเดินเรื่องเอื่อยๆ มาตลอด กว่าจะน่าสนใจจริงๆ คือช่วงครึ่งท้าย เมื่อควิกโดนบีบมากๆ เลยต้องหาทางวางแผนแก้เกมคืนพวกเจ้าพ่อวายร้าย ซึ่งก็ไม่เลวครับ เพียงแต่ไม่เด็ดขาดมันส์เต็มที่ เพราะปกติถ้าจะแก้เกมเนี่ยมันต้องให้อารมณ์สะใจในตอนท้ายด้วยว่า ในที่สุดพระเอกก็สามารถกลับมาเอาชนะได้ แต่ในเรื่องนี่แค่รับรู้ แต่ไม่ได้สะใจตามไปด้วย อันนี้ก็ไม่แปลกใจครับ ก็ Murphy เขาเพิ่งกำกับเป็นครั้งแรกนี่หน่า และก็เป็นเรื่องเดียวด้วยนับจนบัดนี้

จุดที่ผมประทับใจในหนังไม่ใช่เนื้อหา หรือดาราครับ เพราะมันออกมาเรื่อยๆ แต่ที่เด็ดจนน่ายกนิ้วคือคอสตูม ออกแบบฉากอะไรเหล่านี้ทำได้สวย สมจริงเหมือนยุค 30 จริงๆ ซึ่งขนาดเวทีออสการ์ยังเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาคอมตูมยอดเยี่ยมเลย กับดนตรีประกอบที่เน้นแจ๊สเป็นหลัก คนทำก็คือ Herbie Hancock ทำให้หนังดูสบายขึ้นครับ สองสิ่งนี้ช่วยหนังไว้เยอะมากจริงๆ นะฮะ

ก็เหมาะสำหรับแฟนๆ Murphy เป็นหลักครับ ส่วนแฟนๆ หนังตลกหรือหนังแก็งสเตอร์ไม่อยากจะแนะนำว่าต้องดู ก็เรื่องแก็งสเตอร์มันไม่ได้เฉียบขนาดนั้น หรือจะตลกมันก็ไม่ได้ฮากลิ้ง แต่เป็นฮาแบบมุมปากเท่านั้น พวกนักแสดงแม้จะตลกทั้งนั้นไม่ว่าจะ Murphy หรือ Pryor แตก่ไม่ได้มาขายขำหรอกครับ มาพลิกบทบาทเล่นเป็นแนวจริงจังมากกว่า ไปๆ มาๆ คนที่เล่นได้ฮาสุดกลายเป็น Arsenio Hall ในบทนักฆ่าสุดต๊อง

สองดาวครับ

Star21

(6/10)