ความรู้สึกของผมตอนได้ดูหนังเรื่องนี้ประมาณเดียวกับคนที่เดินกลางทะเลทรายไม่ได้กินน้ำมานานแล้วเจอโอเอซิสนั่นแหละครับ … ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงง่ะ
ไม่ให้งั้นได้ไงครับ ก็ผมดูหนังพี่ Steven Seagal ตั้งสามเรื่องติด จะกระอักโลหิตอยู่แล้ว และก็ตัดสินใจเอาเรื่องนี้มาดูคั่น ตอนดูนี่ถอนหายใจเฮือกเลยครับว่า “เออ มันต้องอย่างนี้”
เรื่องราวตอนต่อมาของนักส่งของปริศนาที่โคตรเก่งมาดเนี๊ยบ นามว่าแฟรงค์ มาร์ติน (Jason Statham) ที่ตอนนี้กำลังมีภารกิจคอยปกป้องดูแล แจ๊ค บิลลงค์ (Hunter Clary) ที่ตกเป็นเป้าหมายของวายร้ายอย่าง จีอานนี่ (Alessandro Gassman) ในการลักพาตัว ซึ่งแฟรงค์ก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกครับ เลยเตรียมระห่ำกับมันอย่างเต็มที่ แล้วยิ่งสืบไปก็ย่งพบว่าเจ้าจีอานนี่คนนี้ไม่ได้คิดจะทำการลักพาตัวธรรมดา มันยังมีแผนซ้อนอยู่อีกด้วย
แต่ว่า หมอนี่เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกะแฟรงค์ มาร์ตินเนี่ยนะ … คิดผิดถนัดแล้ว
ตัวหนังทำออกมาเอามันส์และเว่อร์กันแบบเต็มสูบครับ เหตุผลนี่บางทีก็ต้องลืมๆ ไปบ้าง อย่างไอ้ฉากถอดระเบิดใต้รถแฟรงค์นั่น เว่อร์สุดขั้วจริงๆ แต่ Effect ลีลาภาพ การตัดต่อฉับไว และการเดินเรื่องที่เร้าใจก็ทำให้หนังน่าติดตามตลอดไม่มีเว้นช่วงเลยครับ
จุดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ลีลาเหลือร้ายของ Statham ที่ผมว่าสามารถหากินกับบทนี้ไปได้อีกนาน (ถ้ายังจะสร้างอีกนะ) เพราะแกเจอบทที่เหมาะครับ และคาแร็คเตอร์ที่แกได้นี่ก็เป็นเอกลักษณ์แบบสุดๆ ไม่ว่าจะมาดเท่ห์มาดเข้ม คำพูดคมๆ ที่เฉียบสั้นและได้ใจความ ลีลาการเตะต่อยที่แม้จะไม่พริ้วขนาดดาราอ่องกง แต่ก็ออกมาพอดี และเหนืออื่นใดก็คือชุดครับ ชุดสูทดำผูกเนคไท เป็นเครื่องแบบที่เนี๊ยบเหลือเกินจริงๆ
ผมว่าบทของแฟรงค์ถูกเขียนออกมาอย่างพอเหมาะครับ รู้อุปนิสัยรู้อะไรครบ เหมือนได้ดูซูเปอร์ฮีโร่คนหนึ่งน่ะแหละ แม้รู้แหงๆ ว่าแกไม่ตาย แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขามีเลือดเนื้อ มีพลาดพลั้งได้ ความลุ้นก็เลยมีได้แบบไม่ยากเย็น รวมไปถึงพี่แกยังมีกฎส่วนตัวอีก ฟังทีไรก็ฮา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเคร่งครัดกับกฎและคำสัญญาอย่างมาก แล้วยังทำทุกสิ่งอย่างเต็มที่ ลองว่าทำแล้วล่ะกัดไม่ปล่อย อีกทั้งยังยืนหยัดในความถูกต้อง ผมเลยพลอยเอาใจช่วยไปเลยครับ อย่างที่บอกไง ได้ใจผมมากนายแฟรงค์เนี่ย
ดาราทั้งหลายก็มาโอเคทุกราย Gassman แทบไม่ทำอะไรครับนอกจากนิ่งๆ เสียดายที่ตอนท้ายน่าจะตีกันหนักกว่านี้หน่อย แต่ก็ไม่เสียหาย, Amber Valletta ในแสดงเป็นออเดรย์ บิลลิงส์ แม่ของแจ๊คที่ดูเหมือนจะห่วงใยแฟรงค์หน่อยๆ ด้วยเหมือนกัน Matthew Modine พระเอกอินดี้ที่ทำท่าจะรุ่งตอนเล่นนำ Cutthroat Island ก็มารับบทเป็นพ่อของแจ๊ค หน้าตาดูเปลี่ยนไปเยอะครับ ดูดีขึ้นนะ เหมาะกับบทเศรษฐี, Kate Nauta กับบทมือปืนสาวสุดเซ็กซี่ เจ๊แกก็ขโมยซีนไปได้เยอะครับ แต่ตอนตีกับแฟรงค์จริงๆ ในช่วงท้ายก็แพ้ง่ายไปหน่อย, Jason Flemyng มาเป็นดิมิทรี่ นักวิทยาศาสตร์ที่โดนแฟรงค์ตามล่าทั่วเมือง พี่ท่านก็ถนัดอยู่ครับบทเสียจริตแบบเนี้ย
หนังมันมีช่องโหว่เยอะครับผมยอมรับเลย ไม่ว่าจะความเว่อร์หรืออะไร แต่ถ้าท่านทำใจรับได้ผมเชื่อว่าท่านน่าจะมันส์ไปกับหนังได้ไม่ยาก มีครบทั้งฉากยิงกัน แอ๊คชั่นประชิดตัว Statham เองก็ผสมลีลาได้ดีนะครับ มีทั้งบู๊หักกระดูกแบบ Steven Seagal บวกกับลีลาพริ้วของ Jet Li พร้อมด้วยการหยิบเอาข้าวของรอบตัวมาใช้สู้สไตล์เฉินหลงอีก ก็ไม่น่าแปลกนะครับ เพราะหยวนหวู่ปิงเขามาออกแบบท่าให้ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าคนเล่นมือไม่ถึง ลีลาดีแค่ไหนก็ไม่ไปหรอก (ดู Ice Cube ใน XXX 2 ได้ครับ ยังไงก็บินไม่ขึ้นน่ะ)
อยากดูหนังบู๊ดีๆ เท่ห์ เพื่อผ่อนคลายนะครับ เรื่องนี้แนะนำเลย ความยาวก็แค่ 84 นาทีเอง สบายๆ ครับ ผมก็คงไม่บรรยายมากเพราะมันไม่มีอะไรให้บรรยายอ้ะ หนังต่อยตีมันมีอะไรบ้างล่ะครับ ก็ตามนั้นแหละ บอกได้แค่ว่า ไม่ผิดหวังหรอกครับ
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์