หนุ่มๆ หลายรายน่าจะตาโตไม่ใช่น้อยนะครับ หนังเล่นรวมดาราสาวๆ สวยๆ กันมาเต็มจอ ไม่ว่าจะ Jaime Pressly (รายนี้เซ็กซี่สุดๆ ครับจาก Poison Ivy: The New Seduction) ตามด้วย Holly Valance นักร้องสุดร้อนจาก MV ที่น่าจะติดตาสุภาพบุรุษอย่างเราๆ ในเพลง Kiss Kiss, Devon Aoki เธอคนนี้ก็เสน่ห์แรงมากครับ ผมล่ะตามดูตั้งแต่ 2 Fast 2 Furious เป็นต้นมา
เอาแค่สามสาวนี้ หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วครับ ฮุๆๆๆ
ไม่ต้องห่วงครับรีวิวนี้หื่นเต็มที่ตามสบาย ไม่ถือว่านอกเรื่องด้วย เพราะเชื่อเถอะ ไอ้เอกบุรุษทั้งหลายที่ไปดูก็ต้องมีอาการไม่ต่างจากผมเท่าไหร่แหงมๆ (รู้น่า หลายคนบอกแฟนว่าอยากดูหนังแอ๊คชั่น แต่ใจจริงอยากไปดูความสวยความงามใช่มั้ยล่า 5555 ของแบบนี้มันรู้กันน่ะพี่น้อง)
DOA ก็สร้างจากเกมต่อสู้ยอดฮิตของ Tecmo นี่ก็เป็นธรรมดาของโลกครับ เกมไหนฮิต และเอามาทำเป็นหนังได้ล่ะเป็นต้องโดนหมายตาทุกที แล้วคนที่จับมาทำก็ไม่ใช่ครับ เขาคือพี่ Paul W.S. Anderson เจ้าเดียวกับที่เอา Mortal Kombat แล้วก็ Resident Evil ขึ้นจอนั่นเอง (และล่าสุดพี่ท่านก็ไปเอาสิทธิ์ Castlevania มาทำหนังเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ )
ต้องยอมรับครับว่าเกมน่ะผมไม่เคยเล่นกับเขาหรอก (โลว์เทคครับ ยอมรับๆ ) แต่ดูแนวก็พอเดาได้ว่าต้องตีกันสถานเดียวแล้วหนังก็ออกมาตามนั้นจริงๆ
พล็อตถูกผูกขึ้นอย่างหลวมๆ ครับ แค่ปูพื้นนำพาห้าสาวให้มาขึ้นเกาะแล้วก็สู้กันนั่นเอง สาวทั้งห้าก็มี คาซูมิ (Devon Aoki) เจ้าหญิงที่ยอมฝืนกฎของอาณาจักรหนีออกมาเพื่อตามหาฮายาเตะ (Collin Chou) พี่ชายที่หายสาปสูญไปในการประลอง DOA ครั้งที่แล้ว
นอกจากนี้ก็ยังมี ทีน่า อาร์มสตรอง (Jaime Pressly) นักมวยปล้ำสาวที่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเธอไม่ได้เก่งแค่บนเวทีมวยปล้ำเท่านั้น, คริสตี้ อัลเลน (Holly Valance) ขโมยสาวมือฉกาจที่ตำรวจหน้าไหนก็จับเธอไม่ได้ และ เฮเลน่า ดักลาส (Sarah Carter) สาวแกร่งผู้เป็นทายาทของผู้ก่อตั้งการแข่งขัน DOA พวกเธอทั้งหมดต้องมาร่วมการแข่งขันที่ว่านี่ โดยมีเงินรางวัล 10 ล้านเหรียญเป็นรางวัลอยู่ แต่ที่เธอต้องสู้ไม่ใช่แค่พวกเธอกันเองเท่านั้น ยังมีนักสู้อีกหลายรายที่ได้รับการเชิญมา
เฮ่อๆๆ ก็อย่างที่บอกแหละครับ เรื่องราวของหนังมันวางไว้เพื่อนำพาให้เกิดฉากตีกันเท่านั้นเอง นอกจากนี้ก็มีพล็อตรองอย่างการตามหาพี่ชายของคาซูมิ แล้วก็ความลับบนเกาะอย่างเงินร้อยล้านที่ถูกซุกซ่อนไว้ แล้วยังมีแผนปริศนาของโดโนแวน (Eric Roberts) ผู้จัดเกม DOA ครั้งล่าสุดอีก ซึ่งเอาเข้าจริงมันก็เป็นการยำให้หนังมีมากกว่าแอ๊คชั่นนั่นเองฮะ
หนังได้ Corey Yuen มากุมบังเหียนกำกับครับ นั่นก็ทำให้เราพอจะไว้วางใจเรื่องฉากบู๊ได้ กับสไตล์มุมกล้อง ซึ่งโอเคล่ะครับ สำหรับหนังแอ๊คชั่นเรื่องเนี้ย ฉากต่อสู้ไม่ได้แปลกใหม่นัก แต่ก็ออกมาสนุก โดยมากฉากต่อสู้ของทีน่าจะดูมีสีสันมากสุดครับ อย่างตอนตีกับพ่อตัวเองบนแพกลางน้ำ หรือตอนสู้กับไอ้ดำย้อมผมสีเขียวกลางลานโล่ง ก็ทำได้สนุกดี
สำหรับปรัชญาของหนังเรื่องนี้ก็ … กร๊ากกกกกกกกกก โอย แทบไม่ต้องคิดมากเลยครับ มันจะอะไรมากมายล่ะฮะ คือหนังดูเอามันส์น่ะ มีตีกัน มีสาวๆ มีมุขฮาและดนตรีมันส์เป็นพักๆ แล้วก็ต้องมีระเบิดใหญ่ๆ ตอนท้ายเรื่องเพื่อสิริมงคลนะครับ มีลุ้นแข่งกับเวลาหน่อย เท่านั้นแหละครับ คือถ้าท่านอยากดูหนังเข้มข้นล่ะไปดู The Departed แล้วกันครับ (แล้วพอพูดถึงเรื่องนี้ก็จะมีคนบอกต่อให้ไปดู 2 คน 2 คมดีกว่าเยอะ )
แต่ผมชอบนะครับ ไม่ได้ปลื้มขนาดอยากดูซ้ำ แต่มันก็สนุกแบบเฮฮาเอามันส์ และหนังก็ไม่ได้ทำอย่างลวกๆ หรอกนะครับ ไอ้ที่ลวกน่ะเรื่องบท แต่ส่วนอื่นๆ จัดว่าคุ้มทุน 30 ล้าน อย่างฉากที่แม้จะไม่ได้มีศิลป์มีสีที่สื่อความหมายเท่า Hero แต่ก็เหมาะสมกับความเป็นฉากบู๊ผสมดนตรีเทคโนล่ะครับ ต่อยตีกำลังดี
ส่วนสาวๆ เอ้ย ผมหมายถึงนักแสดงน่ะนะครับ นักแสดงก็เลือกมาได้เหมาะกับบทเหมือนกัน Aoki ที่ผมปลื้มนักหนาก็เย็นชาดีฮะ (หรือเจ๊แกแอ๊คติ้งไม่ดีก็ไม่รู้ แต่บทมันต้องแข็งๆ แบบนี้ล่ะครับ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะแข็งเพราะแสดงดีหรือเพราะแสดงแข็งก็ถือว่าเหมาะดี)
Valance ดูสวยซ่า แสบเปรี้ยว จริงๆ บทแบบนี้มักจะสร้างสีสันให้หนังได้เยอะนะครับ แย่งความเด่นได้เยอะเลยล่ะ แต่ในเรื่องเธอกลับจำกัดความเด่นไว้แค่กับตัวเอง ไม่สามารถขโมยซีนชาวบ้านได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็งงเหมือนกันครับ ไม่รู้เพราะผู้กำกับแกจงใจหรือเปล่า กลัวว่าเธอจะเด่นกลืนบทอื่นมั้งครับ เลยจำกัดสีสันตัวละครนี้ลง ซึ่งผมก็ไม่เสียดายหรอกครับ เพราะทำแบบนี้ก็ดี ความเด่นจะได้กระจายทั่วถึงกัน
แต่รายที่เข้าตามากๆ กลับเป็นบททีน่าของ Pressly นะครับ คือจริงๆ เรื่องก่อนๆ เธอสวยเซ็กซี่ ปนซ่าแบบนี้มานานแล้ว แต่ที่เข้าตามากๆ ก็คือเธอไปฟิตหุ่นมา ถ้าใครเคยติดตามเธอมาก่อนหน้านี้จะเห็นครับว่าหุ่นเธอไม่ล่ำขนาดนี้หรอก แสดงว่าไปซุ่มมาแหงมๆ แล้วซุ่มซะได้สัดส่วนดีด้วย ดูเป็นนักมวยปล้ำจริงๆ ครับ แล้วบทพูดเธอก็เรียกเสียงฮาได้ไม่เลว อย่างไอ้ตอนที่เจ๊แกแซวคาซูมิให้หึงน่ะคับหรือตอนที่พ่อเธอเดินเข้ามาแล้วเข้าใจว่าเธอกับคริสตี้เป็นอะไรกัน ก็ฮากันไปล่ะครับ
ส่วนบทเฮเลน่า สาวนี้ก็สวยอีกแล้วครับ Sarah Carter ตอนแรกแค่เรื่อยๆ นะ ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าเธอจะเด่นขึ้นมาได้บ้างมั้ย ผลสรุปก็คือพอไหว อย่างน้อยฉากที่เจ๊แกดวลดาบกับผู้ร้ายยี่สิบกว่าคนนั่นก็ลุ้นพอได้
แต่สาวคนนี้ Natassia Malthe ในบทอายาเน่ หัวหน้าองครักษ์ที่ออกมาตามล่าคาซูมิ กลับค่อนข้างน้อยไปหน่อยครับ โผล่บ้างหายบ้าง พอตอนท้ายก็ว่าแล้วล่ะว่าเจ๊แกต้องโผล่มาช่วยใครซักคนที่กำลังจะตกจากที่สูง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ๊แกเป็นหมอดูรึไงถึงรู้ว่าใครจะตกตรงไหน ถึงเหาะมารับได้ถูก)
นั่นล่ะนะครับ ฉากบู๊โอเค ดาราสาวดี มีมุขฮาแทรกเป็นพักๆ เดินเรื่องไว หนังไม่ยาว (แค่ชั่วโมงครึ่ง) ถ้าอยากดูเสพความสำราญชั่วครั้งคราวล่ะก็ได้ฮะ หรืออยากดูคนสวยๆ ก็ได้เหมือนกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังสไตล์บู๊แบบไม่คิดมากนะครับ พวก Mortal Kombat อะไรทำนองนั้น ซึ่งจะว่าไปผมชอบเรื่องนี้พอๆ กับ Mortal นั่นแหละ (และชอบมากกว่า Mortal Kombat 2 และเหนืออื่นใด ชอบเรื่องนี้มากกว่า Street Fighter ครับ … ก็เรื่องไหนจะเลวร้ายเท่าได้ล่ะนั่น )
วิธีดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกก็ไม่ยากครับ ลืมเหตุผลไปให้หมด คือถ้าจะนึกถึงความเป็นไปได้ล่ะคงไม่สนุกล่ะครับ เอาแค่ทำไมมันมีวิชาตัวเบาขนาดนั้น หรืออย่างตอนที่คาซูมิสู้กับอายาเนะกลางป่าไผ่ ตอนดูก็อดคิดเอาฮาไม่ได้ล่ะครับ เพราะดาบซามูไรที่อายาเนะใช้สามารถฟันต้นไผ่ขาดในดาบเดียว ฟันฉับขาด ฟันฉับขาดทุกต้น แต่จากนั้นพอเจ๊คาซูมิก้มลงคว้าไม้ไผ่อันหนึ่งจากพื้นขึ้นมา ปรากฎว่าดาบเมื่อกี้ฟันไม่ขาดครับ อะไรก็ไม่ทราบ หรือเจ๊แกควานไปเจอไม้ตีสุนัขพรรคกระยาจกก็ไม่รู้ คิดแค่นี้ก็ขำแล้วครับ
ถ้าคิดแบบเอาฮาอย่างผมคงดูหนังฮาขึ้น แต่ถ้าคิดแบบเอาจริงล่ะ หมดสนุกได้นะครับ ฉะนั้น อย่าคิดมากจ้า
เอามันส์ครับ จริงๆ รอดูแผ่นก็ได้นะ ยกเว้นอยากดูหนังที่ไม่คิดมากครับ เรื่องนี้พอไหวใช้ได้ ไม่มีสาระ ไม่มีเหตุผลครับ ท่องไว้อย่าลืมล่ะ
ไม่ถึงสองดาวครับ
(5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์