หลังจากภาคก่อนนำพาทั้ง Peter Sellers และผู้กำกับ Blake Edwards กลับมาดังได้อีกครั้ง ดังนั้นเรื่องการสร้างตอนต่อนี่แทบไม่ต้องพูดถึงครับ เพราะมันต้องทำอยู่แล้ว อีกทั้งภาคก่อนหนังได้ทิ้งปมปูเรื่องไว้เรียบร้อยว่ายังไงๆ ก็ต้องมีตอนต่อแน่ๆ
หนังจับเอาตอนจบของภาคก่อนมาเล่าต่อครับ พอหมดเรื่องคดีแฟนธ่อมไปแล้ว ผลลัพธ์คือสารวัตรคลูโซ (Peter Sellers) มีชื่อเสียงมากขึ้น และสารวัตรใหญ่ชาร์ลส เดรย์ฟัส (Herbert Lom) ต้องเข้าโรงพยาบาลบ้า! นี่ไงครับ อยู่กับคลูโซมากๆ พี่ท่านเลยบ้าจริงๆ ไปเลย ก็ไหนจะโดนคลูโซมาซุ่มซ่ามใส่ เจอเคราะห์สารพัด ในที่สุดเดรย์ฟัสก็เลยเห็นควรว่าการกำจัดคลูโซให้พ้นไปจากโลกนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องทำ
บอกตรงๆ ผมพอเข้าใจเดรย์ฟัสครับ ก็เจอตั้งเยอะอ้ะ หลายทีจะตายเอา ไม่ฆ่าไอ้ตัวซวยนี่ก็ไม่ไหวแล้ว ดังนั้นพี่ท่านเลยวางแผนแหกโรงพยาบาลบ้าออกมา แล้วก็รวบรวมเหล่าอาชญากรขึ้นมาตั้งเป็นองค์กรลับเอาไว้สังหารคลูโซโดยเฉพาะ
ก็มาดูกันต่อไปครับว่าคลูโซจะยังดวงดีตลอดรอดฝั่งอีกหรือไม่น่ะนะ
ภาคก่อนๆ ตลก ส่วนภาคนี้มันบ้าแล้วครับ เอาแค่เนื้อเรื่องนี่ก็บ้าสุดๆ แล้ว คาดว่าทั้ง Edwards และ Frank Waldman ที่ช่วยกันปั่นบทขึ้นมาคงฮาน่าดูล่ะครับ เพราะเนื้อเรื่องมันติ๊งต๊องจริงๆ ซึ่งตอนแรกทั้งคู่กะจะเขียนบทไว้สำหรับ Pink Panther TV series ครับ คือกะจะเอามาทำเป็นซีรี่ส์ทางทีวีน่ะ แต่ก็ลองทำ The Return of the Pink Panther มาชิมลางก่อน ปรากฏว่ามันดังครับ ทีนี้บทที่จะเอาไปทำซีรี่ส์ก็เลยขยายมาทำหนังใหญ่เป็นเรื่องเนี้ย
ภาคนี้ไม่มีสาระใดๆ ครับ เอามันส์อย่างเดียว แต่ไอ้เอามันส์ที่ว่านี่ก็เข้าข่ายฮาโคตะระเลยนะครับ มันบ้ากันเต็มสูบจริงๆ Sellers นี่ก็เข้าข่ายอัจฉริยะแล้วครับ ภาคนี้มีการปลอมตัวแบบบ้าๆ เพียบ เล่นกับสำเนียงพรึ่บไปหมด คือยังไงก็ต้องฮาอ้ะครับ ไม่ฮาท่าทางก็ต้องฮามุขของแกน่ะ
ส่วนตอนสืบคดีก็ยังเพี้ยนเหมือนเดิม สืบไปข้าวของชาวบ้านพังวินาศสันตะโรตามสูตร หรือบทพูดติงต๊องอย่างตอนสืบพยานเงี้ยครับ บทมันจะประมาณว่า
“ลุงเป็นใคร”
“เป็นคนสวนครับ”
“แล้วลุงทำหน้าที่อะไรล่ะ”
“ก็ทำสวนไงคุณ”
แล้วแกก็จะมีอะไรบ้าๆ แบบนี้ตลอดครับ ซึ่ง Sellers แกสุดยอดมาก แต่ภาคนี้ Lom ก็ขโมยซีนไปเยอะครับ เพราะพี่แกกลายเป็นตัวร้าย แต่ยังบ้าและต๊องเหมือนเดิม แล้วทั้งเรื่องก็ได้เจอแต่หน้าสองคนเนี้ยครับ คือเจอใครก็ฮาหมดน่ะแหละ หนังทั้งเรื่องเลยฮาอิ๊บอ๋ายไม่มีเว้นวรรคกันเลยล่ะ
นอกจากนี้ Burt Kwouk ก็ยังมาบ้าเป็นคาโต้ต่อไป (ซึ่งก็บ้าไม่มีตกครับรายนี้) แล้วยังมี Lesley-Anne Down สาวสวยมาเล่นเป็นโอลก้า นักฆ่าที่ถูกส่งมาอีกคน
หนังไม่มีอะไรเลยครับ ลองมาจับประเด็นจริงๆ คือไม่มีอะไรเลย แค่เดินเรื่องไปให้เกิดมุขเท่านั้น แต่ก็นั่นแหละครับนี่มันหนังตลกนี่หน่า ฮาก็พอแล้ว ส่วนคำถามว่าฮามั้ยก็บอกได้เลยว่าฮามากๆ เพราะความติงต๊องงี่เง่าของตัวละครทั้งหลายนี่แหละ เหมือนดูการ์ตูนน่ะครับ ขนาดเวลาวิ่งยังเหมือนการ์ตูนเลย
แล้วยังมีมุขกัดโน่นนี่อีกครับ อย่างประธานาธิบดีที่วันๆ เอาแต่ฟังผลอเมริกันฟุตบอล (ขนาดเดรย์ฟัสออกอากาศขู่จะทำลายโลก เฮียแกยังสั่งให้เปลี่ยนช่องอ้ะ เอาเข้าไป )
ก็ว่ากันเลยนะครับเพราะหนังมันเน้นตลกก็เลยว่าง่ายๆ ถ้าลองว่าชอบหนังตอนก่อนๆ ของ The Pink Panther ก็ไม่ควรพลาดตอนนี้ครับเพราะมันฮาสุดยอดจริงๆ เอามาดูต่อกันก็คงมีการท้องแข็งกันบ้างล่ะนะครับ ถ้าชอบพวก Mr. Bean หรือ Johnny English ก็คงต้องชอบเรื่องนี้ล่ะครับ มันฮามันส์พอๆ กัน
สองดาวครึ่งขำๆ ครับ
(7/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Comedy