น้องๆ ก็ Request มาให้ดูซะทีน่ะนะครับ เลยเช่ามาดูเพื่อรีวิวซะเลย ซึ่งยังไงๆ แม้มันจะดูเห่ย แต่ก็ต้องดูอยู่ดีล่ะครับตามหน้าที่ ก็เล่นดูตามมาตั้ง 3 ภาคแล้ว ลองว่ามีภาค 4 กับ 5 โผล่มาก็ต้องขอดูให้ครบๆ จะได้ไม่มีเรื่องค้างคาใจ

เรื่องราวเปิดมาทำท่าจะดีครับ เหมือนจะเชื่อมกับภาคก่อนๆ ว่าด้วยบริษัทไฮเบอร์ เทค ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่สุดในยุคนั้นน่ะนะครับ เพราะทำการค้าครอบคลุมเครื่องอุปโภคบริโภคของชาวเมืองแทบทั้งหมด แล้วยังมีประวัติในการปราบปรามเหล่าซอมบี้ที่เคยออกมาอาละวาดเมื่อทศวรรษก่อนด้วย (ซึ่งภาค 3 ที่ทำออกมาก็ราวๆ สิบปีนั่นแหละ)

จากนั้นหนังก็แนะนำตัวละครอย่าง จูเลี่ยน แกริสัน (John Keefe) เด็กหนุ่มที่ต้องมาเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาเลยต้องอยู่กับลุงชาร์ลส (Peter Coyote) ชีวิตของจูเลี่ยนก็อยู่ท่ามกลางความเกลียดชังที่มีต่อไฮเบอร์ เทค นั่นแหละครับ จนกระทั่งวันหนึ่ง ซีค (Elvin Dandel) เพื่อนของเขาต้องมาประสบอุบัติเหตุ พอส่งโรงพยาบาล หมอก็บอกว่าเขาตายซะแล้ว แต่แคธี่ (Jana Kramer) เพื่อนหญิงของจูเลี่ยนที่ทำงานอยู่ที่ไฮเบอร์เทคโทรมาบอกว่า เพิ่งเห็นคนพาตัวซีคมาที่ตึกอยู่หยกๆ

ทีนี้ก็เป็นเรื่องล่ะครับ พวกจูเลี่ยนเลยหาทางยกทัพไปในไฮเบอร์เทค เพื่อช่วยเพื่อนเขากลับออกมา แต่หารู้ไม่ครับว่าในไฮเบอร์ เทค น่ะ เขากำลังทดลองอะไรบางอย่างอยู่ (ไม่ใช่เนสซี่แน่นอนครับ มันต้องเป็นซอมบี้ น่ะนะ) แล้วพวกเขาก็ไปทำการปล่อยมันออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วเรื่องก็ยาวล่ะครับ พวกเขาจะรอดได้ยังไง ใครจะตายไปบ้าง อันนี้คำตอบอยู่ในหนังแล้วล่ะครับผม

ก็ … ได้ดูแล้วล่ะนะครับ สำหรับภาคที่ 4 ของเรื่องราวซอมบี้ภาคแยกนี้ ยอมรับอย่างหนึ่งว่าตอนดูตัวอย่างในโรงนั้น รู้สึกมันน่าสนครับ น่าจะสนุก เพราะตัดต่อมาได้ดี สไตล์เหมือนจะเป็นแนว Resident Evil อะไรทำนองนั้น แล้วความสยองความแหวะก็ดูเหมือนจะเยอะเลอะเทอะเปรอะจอไม่ใช่ย่อย แล้วตัวผู้กำกับเองก็คือ Ellory Elkayem ซึ่งเคยทำหนังแนวสยองแปดขาถล่มดลกมาแล้วใน Eight Legged Freaks ซึ่งอันนั้กฯออกมาใช้ได้ ก็เลยทำให้พอจะคาดว่าภาคนี้น่าจะสนุกน่ะครับ

แล้วเป็นไงน่ะเหรอ เหอๆๆ

คือ ถ้าว่าตามจริง มันก็ดูได้น่ะครับ ถ้าท่านชอบหนังแนวสยองซอมบี้นะ คือ มันมีครบล่ะครับ ตั้งแต่ฝูงซอมบี้หน้าเละ มีเลือด มีฉากกัดกินอวัยวะมนุษย์นะครับ ลากไส้ออกมาพาดเงี้ย เยอะเหมือนกัน ผมดูไปก็ยังแหยงๆ ครับ คือไม่ถึงกับสยองนะ แต่มันเสียวไส้ โอเคล่ะครับความสยองเกี่ยวกับซอมบี้บุกนี่ก็ทำได้ดีน่ะ

ส่วนเนื้อเรื่องนั้นเห็นจะต้องบอกให้ท่านทำใจอย่างแรงครับ สาระมันไม่มีหรอกจ้ะ เอาแค่ประเด็นที่พวกจูเลี่ยนเข้าไปช่วยซีคได้โดยที่มีแค่แคธี่คอยเปิดประตูให้นี่ก็บ้าแล้วล่ะครับ คือสถาบันทดลองแบบนี้มันไม่ใช่กระจอกนะ คือมันต้องมีการคุ้มกันที่เข้มงวดไม่ใช่น้อยน่ะครับ แต่นี่ดันกลายเป็นว่าแคธี่ เด็กสาวดูแลตึกทั้งตึกอยู่คนเดียว คือมันจะบ้าเหรอครับ มีที่ไหนอ้ะ แล้วท่าทางสถาบันนี้ยังมีการทดลองลับอีก ยังไงมันก็ต้องคุ้มกันแน่นหนา ไม่ใช่ใรจะเข้าไปง่ายๆ ไม่งั้นคนอื่นเข้ามาล้วงความลับก็ง่ายๆ น่ะสิ แค่นี้ความน่าเชื่อถือในเรื่องก็ออกทะเลไปแล้วครับ

แล้วยังไม่จบครับ ความหงุดหงิดยังไม่หมดสิ้น คือ … มันเป็นอย่างนี้ทุกเรื่องครับ หนังซอมบี้ทุกเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้ คือมันต้องเป็นว่าตัวละครทั้งหลายไม่เคยรู้เล้ยจ้า ว่าซมอบี้น่ะเอ็งต้องยิงที่หัว โอเค ตอนแรกพอไหวนะ ที่ลุงชาร์ลสนั่นยิงซอมบี้ก็นึกว่า เออ มันน่าจะพอรู้กันบ้าง แต่นี่พอพวกจูเลี่ยนไปเจอเข้า ยิงสุ่มมั่วเลยครับ กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็นานเหมือนกัน อันนี้ผมก็หงุดหงิดนะ ผมว่าคนดูหลายรายก็น่าจะหงุดหงิดล่ะครับ เพราะส่วนมากที่มานั่งเช่ามาดูก็ย่อมต้องเป็นคนที่ชอบหนังแนวซอมบี้ใช่มั้ยครับ ดังนั้นมุขเนี้ยมันรู้จนไม่รู้จะรู้ยังไงแล้ว แล้วพอมาเจออะไรแบบนี้อีกก็เซ็งอ้ะ อีกอย่างในหนังเองก็บอกแล้วว่าเคยเกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุกเมืองมาแล้ว แล้วทำไมไม่มีใครรู้กันเลยวะ เออ

เหมือนไม่รู้ว่าแดร็กคูล่ากลัวไม้กางเขนน่ะแหละ

แต่ก็โอเค ทำใจครับ ทำใจ ทำใจ เรื่องนี้กินเข้าไปหลายเม็ดมากกว่าจะทำใจได้ แต่ก็โอเคน่ะ ตัดความเป็นไปได้ออกให้หมดครับ และต้องลืมความงี่เง่าของตัวละครทั้งหลายด้วย อย่างยิงซอมบี้ตั้งนาน พอกระสุนหมด ก็ต่อยกับมัน เฮ้ย เพ่ ซอมบี้นะเฟ้ยไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ต่อยกะมันแล้วมันจะตายมั้ยล่ะนั่น โอย วิ่งครับ มันต้องโกยลูกเดียว หรือจะตอนที่พอเห็นตัวประหลาด อย่างตัวอ่อนซอมบี้เงี้ย เห็นปุ๊บก็จะมีตัวละครฉลาดๆ คนหนึ่งบอกว่า “เฮ้ มาดูนี่สิ” … เฮ่อ อยากจะบ้า เป็นผมล่ะเห็นพวกนี้ล่ะวิ่งไม่คิดชีวิตแล้วครับ แล้วไอ้พวกบ้าที่เหลือก็ยังเสือกบ้าจี้นะ ใครเรียกให้ดูก็ดู

โว้ย บ้าที่สุด

ครับ แม้จะดูไปบ่นไป แต่ก็โอเคนะ คือต้องลืมเหตุผลให้หมดครับ ดูแต่ฉากซอมบี้ไล่กัด แล้วก็การวิ่งหนีแค่นี้พอครับ อย่าไปคิดมาก

ส่วนพวกดารานั้นก็เรื่อยๆ หน้าใหม่แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย ส่วนหน้าเก่าอย่าง Peter Coyote ก็จัดว่าดีครับ แสดงได้สบายๆ เพียงแต่บทแกออกจะลอยๆ หน่อย เหมือนจะดีแต่ก็กลายเป็นไม่ดีไปซะง่ายๆ งงเหมือนกัน แล้วจริงๆ องค์กรระดับนี้มันน่าจะมีหัวหน้านะ แต่นี่ไม่มีครับ ยังกับลุงชาร์ลสนี่เป็นหัวหน้าใหญ่อย่างนั้นแหละ งงเหมือนกัน แล้วไม่ใช่ว่าจะมีการไปเปิดปมภาคต่อไปนะ เพราะภาคหน้าคนละเรื่องเลยครับ ไปไหนก็ไม่รู้

ส่วนสาวๆ ที่สวยก็มีครับ อย่าง Jana Kramer ในบทแคธี่ รายนี้ก็สวยน่ารักดี แต่บทก็ไม่มีอะไร ก็เท่านั้นน่ะครับ ไม่ได้มีอะไรหวือหวานะภาคนี้บอกได้เลย

คือ … ถ้าเทียบแล้วผมออกจะสนุกกับภาคก่อนๆ มากกว่าครับ อย่างภาคหนึ่งและสองนี่สยองแบบขำๆ ได้ตามนั้นจริงๆ คือมันสยองแบบพอดีๆ และมีฮาด้วย ส่วนภาคสามนี่สยองแหวะล้วนๆ แต่ก็ยังโอเคนะ เพราะเนื้อเรื่อบงมันยังมีอะไรให้จับบ้าง แต่ภาคนี้ไม่มีเลยครับ อย่างองค์กรไฮเบอร์เทคที่น่าจะมีเบื้องหลังลับลมคมในก็ไม่มีอะไรซะหน่อย จบแล้วก็จบกัน ง่ายๆ เลย

Elkayem กำกับหนังเรื่องนี้ได้แบบเรื่อยๆ ครับ จังหวะต่างๆ ยังไม่ลงตัวนะผมว่า คือมันเหมือนจะทำเป็นหนังเบาๆ แต่พอฉากโหดก็สยองแบบติดเรตกันไปเลย อารมณ์มันเลยเหมือนโดนเหวี่ยงๆ น่ะครับ ดูเหมือนจะเบาๆ แต่ไส้ดันทะลักจอมาเชียว ไม่เหมือนภาคแรกที่มันพอดีๆ ครับ ฮาก็ฮา แต่สยองก็โอเค ค่อนข้างกลมกล่อมกว่านี้น่ะว่างั้นเถอะ

ก็ว่ากันอย่างซื่อๆ ครับ ถ้าชอบหนังสยองซอมบี้ก็ลองได้นะครับผม ก็ใช้ได้น่ะ สนุกพอได้ เรื่อยๆ สยองเยอะหน่อย ชอบตือฮวนล่ะสบายครับ แต่ก็อย่าคิดมากเรื่องเหตุผล แค่ปล่อยไปตามหัวใจครับ ดูไปเรื่อยๆ พอ

เกือบสองดาวครับ

(5/10)