Cradle 2 the Grave หนังแอ๊คชั่นอีกเรื่องของ พี่หลี่เหลียนเจี๋ย หรือ Jet Li ในช่วงที่ไปป้วนเปี้ยนที่ Hollywood น่ะนะครับ ซึ่งหนังโดยมากออกมาก็โอเค พอดูได้ แต่พอหลายเรื่องมากเข้าทางก็เริ่มซ้ำ แนวเริ่มคล้ายๆ กัน (ซึ่งก็ถือเป็นอะไรที่ดารานักบู๊มักจะเป็นอยู่เสมอ)

เป็นการกลับมาร่วมงานอีกครั้งระหว่าง Andrzej Bartkowiak ผู้กำกับจาก Romeo Must Die และ Exit Wounds นะครับ เขาจัดการจับเอาสองดาราจากหนังแต่ละเรื่องมาเจอกัน พี่ Jet Li ของเราก็จาก Romeo Must Die มาเจอกับ DMX จาก Exit Wounds ซึ่งงานของเขาก็ยังเป็นสไตล์เดิมครับ นั่นคือเป็นหนังแอ๊คชั่น บู๊แบบกังฟูผสมฮิปฮอป

Li รับบทเป็น ซู เจ้าหน้าที่หน่วยราชการลับของเกาหลี (แอบฮานิดๆ อาเจี๋ยของผมเนี่ยนะเกาหลี หน้าตาโคตรจะเสี้ยวลิ้มยี่ขนาดนั้น ) ซูก็เดินทางมายังอเมริกาเพื่อตามล่า เพชรดำที่โดนขโมยไป แล้วพอสืบไปสืบมาก็พบว่าเพชรนั้นพอถึงอเมริกาก็ยังมาโดนขโมยซ้ำอีกโดย แอนโทนี่ เฟท (DMX) หัวขโมยมือเยี่ยม

แล้วพอเรื่องดำเนินไปสักพัก ก็กลายเป็นว่าสองคนต้องมาร่วมมือกันรับมือกับวายร้ายตัวจริงอย่าง หลิง (Mark Dacascos) ที่ปรากฎตัวขึ้นแล้วกะจะฮุบเพชรไว้พร้อมทั้งไล่ฆ่าพวกเขาทั้งสองปิดปากอีกต่างหาก

งานนี้สายลับเกาหลีเลยต้องมาร่วมงานกับหัวขโมยผิวดำ เอาล่ะครับจะมันส์แค่ไหนลองไปดูกัน…

ยอมรับครับว่าผมค่อนข้างออกแนวเฉยกับเรื่องยี้ อาจเพราะตามดูงาน 2เรื่องที่แล้วของผู้กำกับ Bartkowiak มาหมด แล้วก็พบว่าหนังเรื่องนี้มันแทบจะก๊อปเอาสไตล์ เรื่องราว และแอคชั่นของสองเรื่องก่อนมาเกือบหมดเลยครับ พี่ Li ก็แทบไม่ต่างจากบทโรมิโอ ส่วน DMX ก็เหมือนใน Exit Wounds มากๆ ประมาณว่าตอนแรกเขาดูเหมือนจะเป็นตัวร้ายก่อนครับ แล้วซักพักหนังก็จะค่อยๆ ทำเราเห็นในอีกมุมของเขา แล้วก็กลายมาเป็นพวกพระเอกไป

หากใครไม่เคยดู 2 เรื่องนั้นมาก่อน เรื่องนี้อาจจะถือว่าดูได้เพลินอยู่ครับ แต่ถ้าเคยดูแล้วก็อาจรู้สึกนิ่งๆ เพราะฉากบู๊ก็เหมือนเคย เรื่องราวก็ได้กลิ่นกระดาษก๊อปปี้ หนังพี่ของพี่เขาจะเน้นที่ฉากบู๊แบบไล่ล่า สู้มือเปล่าเป็นหลัก ซึ่งก็ยังดีครับที่คนที่มาบู๊น่ะยังบู๊ได้ออกลีลาโอเค แม้จะซ้ำทาง แต่ก็ยังพอดูได้เพลินๆ

ข้อดีประการหนึ่งของหนังผมยกให้ 2 ตัวขโมยซีนอย่าง Anthony Anderson กับ Tom Arnold ที่มาร่วมกันสร้างเสียงฮาได้บ้าง ถ้าใครเคยดูหนังสองเรื่องก่อนของ Bartkowiak คงฮาล่ะครับ ยิ่งตอนจบนี่กัดหนังพวกนั้นแบบเต็มๆ เลยล่ะ

ส่วนบทตัวร้ายของ Dacascos นั้นก็ถือว่าน่าพอใจครับ และการที่ Dacascos ได้มารับบทในหนังเรื่องนี้ก็เนื่องมาจากตอนนั้นที่เว็บของ Jet Li ได้มีการทพโพลให้แฟนๆ โหวตครับ ประมาณว่าอยากเห็น Li บู๊กับดาราคนไหนเป็นคนต่อไป แล้วผลโหวตก็ได้เป็น Dacascos เขาเลยได้มาปะทะร่างกับอาเจี๋ยของเราในที่สุด

แต่ดาราที่ถือว่าน่าเสียดายมากๆ คือ Kelly Hu ที่บทน้อยมาก น้อยชนิดที่เอาคนอื่นมาแสดงก็ได้ (อาจจะประหยัดค่าตัวกว่าด้วย) ในขณะที่ Gabrielle Union ยังมีบทมากกว่าและยังดูมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าด้วย อันนี้เสียดายจริงๆ ครับ (ว่าง่ายๆ คืออยากให้ Hu มีบทมากกว่าที่เป็นนั่นแหละครับ-อันนี้ส่วนตัวล้วนๆ เลย 555)

ในแง่ของรายได้ก็ถือว่ากลางๆ ครับ ลงทุน $25 ล้าน ทำในอเมริกาไป $34 ล้าน หรือหากรวมทั่วโลกก็ได้ไป $56 ล้านก็ถือว่าพอคุ้่มทุนครับ

ก็เป็นหนังแอคชั่นที่ดูได้เรื่อยๆ ครับ ถ้าไม่สันทัดแนวนี้ก็ข้ามไปได้ แต่หากอยากดูเพลินๆ หรือชอบหนังสองเรื่องก่อนของผู้กำกับคนนี้ จะตามมาดูเรื่องนี้อีกก็ได้ครับ ขอเพียงไม่คาดหวังมากจนเกินไปก็น่าจะโอเค

สองดาวครับ

(6/10)