นี่ก็เป็นหนังสยองเรื่องเก่าอีกเรื่องที่ได้มาเข้าฉายในบ้านเราด้วยนะครับ เป็นแนวฆาตกรโรคจิตไล่ฆ่าคนอีกนั่นแหละ
เรื่องของคุณหมอโรคจิต นามว่าอีแวน เรนแดล (Larry Drake) ที่เป็นหมอจริงๆ แต่ดันหมกมุ่นโรคจิตคิดจะรักษาผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจคนไข้ ซึ่งเป็นเจตนารมย์เดิมของพ่อเขา (และพ่อของเขาก็โรคจิตไปเหมือนกันครับ) เขาก็เลยพยายามหาทางผ่าตัด แต่ทฤษฎีของเขาคือต้องเอาหัวใจที่เหมาะสมมาจากคนเป็นๆ นี่แหละครับ เรื่องเลยวุ่นวาย จนพี่แกโดนชาวบ้านรวมตัวกันจับกุมส่งโรงพยาบาลบ้าไปครั้งหนึ่ง
แต่แล้วพี่ท่านก็สามารถแหกโรงบาลออกมาอีกครั้ง แล้วก็เดินทางไปยังเมืองที่พ่อของตัวเองเคยเริ่มต้นโครงการนี้ไว้ เพื่อจะได้สานต่อให้จบ แล้วก็แน่ล่ะครับ การหาหัวใจที่เหมาะสมก็ดำเนินต่อไป ชาวเมืองหลายรายก็โดนฆ่าไปเยอะทีเดียว แล้วใครจะหยุดยั้งหมอยิ้มจอมโหดคนนี้ได้
แม้หนังจะเป็นแนวฆาตกรโรคจิต แต่จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ตัวฆาตกรน่ะแหละครับ ที่แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมโดย Larry Drake (เจ้าของบทโรเบิร์ต จี ดูแรนท์ วายร้ายจาก Darkman) คือหน้าพี่ท่านดูเหมือนโรคจิตจริงๆ ครับ ไม่เต็มเท่าไหร่ แต่ก็กลมๆ อ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ ดูน่ากลัวแล้วก็ดูน่าขันไปในเวลาเดียวกัน
อีกทั้งวิธีการฆ่าก็ยังโหดแบบแฝงอารมณ์ขัน เพราะแกจะฆ่าคนโดยวิธีทางการแพทย์ แบบปักเข็มฉีดยาเงี้ยครับ แต่แกจะปักแบบถึงตายไปเลย หรือไม่ก็พอเหยื่อตายแล้วพี่แกค่อยมาเช็คชีพจรแล้วก็พึมพำว่า “ไม่รอดซะแล้วเหรอ หมอรักษาไม่สำเร็จล่ะสิเนี่ย” อะไรทำนองนี้น่ะครับ ก็ขำแบบโหดๆ ดี
แต่ที่ผมว่าฮาและน่าคิดที่สุดคือ มีฉากหนึ่งที่หมอแกเดินไปไล่ฆ่าคน แล้วจากนั้นก็เดินผ่านห้องหนึ่งในบ้าน เห็นเด็กคนหนึ่งกำลังเล่นเกมอย่างเมามันส์เลยครับ เล่นแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ลืมหูลืมตาทั้งสิ้น พี่แกไม่ทำอะไรครับ แค่เดินผ่านแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “รายนี้สมองตาย สายเกินที่จะช่วยแล้ว” แล้วก็เดินผ่านไปเลย ผมว่าเข้าท่าดีครับ กัดเด็กที่เล่นแกมแบบไม่ลืมหูลืมตาได้ขำดี คือผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เข้าใจน่ะ ผมเองก็เคยผ่านวัยมาก่อน เคยเล่นเกมแบบไม่ลืมหูลืมตาเหมือนกัน เด็กน่ะไม่เท่าไหร่ครับ แต่ถ้าผู้ใหญ่แล้วติดแบบไม่ทำอย่างอื่นเลยผมว่ามันก็น่าคิดนะครับ เล่นเพื่อคลายเครียดน่ะโอเค แต่ถ้าถึงขนาดจะจมลงไปในโลกของเกมเลยมันออกจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายครับ โลกข้างนอกยังมีอะไรน่าเรียนรู้อีกเยอะนะครับ
โดยรวมๆ ผมว่าหนังไม่เลวครับ คือมันโหดและน่ากลัวแบบพอประมาณ แต่ถ้าคุณดูหนังแนวนี้มาเยอะคงไม่เท่าไหร่ น่าจะเดาอะไรๆ ได้ แต่ก็ยังสนุกได้อยู่ครับ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเท่าศุกร์ 13 ภาคหลังๆ หรอกน่า (กำกับโดย Manny Coto ครับ)
ก็แนะนำคร่าวๆ ครับ ว่าดูได้เรื่อยๆ แต่ไม่ดูก็ไม่มีปัญหาครับ เหมาะกับคอหนังแนวสยองไล่ฆ่ามากกว่า ไม่มีอะไรใหม่ แต่ก็ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานล่ะน่า แล้วผมยังคิดว่าตัวหนังเอง พวกฟอร์มและโปรดักชั่นมันยังดูลงทุนนะ ดูดีกว่าหนังสยองแนวเดียวกันในสมัยนี้อีกหลายเรื่องน่ะครับ
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Horror