มาครับ มาต่อกันเลย กับเรื่องสยองที่ยังไม่จบสิ้นลง หลังจากภาคแรกที่คริสตี้ ค็อตตอน (Ashley Laurence) ต้องเผชิญกับเหล่าซีโนไบท์และเจอนรกสุดโหดมาแล้ว ครั้งนี้เธอจำเป็นต้องกลับไปเปิดกล่องรูบิคนั่นอีกครั้งเพื่อเข้าไปช่วยวิญญาณพ่อของเธอในนรก
ภาคที่แล้วแค่เปิดกล่องแล้วผีออกมาใช่มั้ยครับ แต่ภาคนี้คริสตี้ต้องลงไปในนรกเองเลย ก็คิดดูแล้วกันครับว่าจะเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งหนังสานต่อเรื่องจากภาคแรกได้ดีมาก เพราะลุ้นหนักกว่าเก่า ไหนเธอจะต้องเจอกับพวกซีโนไบท์เจ้าเก่าที่นำโดยพี่พินเฮด (Doug Bradley) แล้ว ยังต้องเจอกับมิตินรกที่วกวนเป็นเข้าวงกตอีก คือ ถ้าเธอออกมาไม่ทันก็ต้องอยู่ในนั้นกับเหล่าผีนรกน่ะฮะ
หนังยังโหดอยู่ แต่อาจจะไม่แหวะดิบเท่าตอนแรก แต่เรื่องเข้มข้นขึ้น ผจญภัยมากขึ้น เรียกว่าถ้าดูภาคแรกแล้วต้องต่อด้วยภาค 2 ครับ จะได้ต่อเนื่องในอารมณ์ ตัวละครในภาคนี้นอกจากคริสตี้แล้ว ยังได้ Clare Higgins กลับมารับบทจูเลียด้วย ตอนเปิดตัวขึ้นมาก็สยองกันน่าดูล่ะครับ คิดดูเถอะ เธอตื่นฟื้นขึ้นมาในสภาพไร้หนัง มีแต่เลือดทั้งตัวน่ะครับ
แล้วก็ยังมี Kenneth Cranham มารับบท ดร.ฟิลลิป แชนนาร์ด จิตแพทย์ที่หมกมุ่นในเรื่องกล่องรูบิคและยังเป็นคนเริ่มต้นความสยองของภาคนี้อีกด้วย ซึ่งตอนที่พี่แกลงไปในเขาวงกตนรกแล้วก็ต้องเจอกับเรื่องสยองนั่น ก็น่ากลัวกันไปล่ะครับ, Sean Chapman ก็กลับมาแสดงเป็นแฟรงค์ คอตตอนอีกเช่นกัน แล้วก็ยังมี Imogen Boorman มารับบทสาวน้อย ทิฟฟานี่ เด็กที่มีปัญหาทางจิตแต่เก่งเรื่องการไขเกมปริศนาทั้งหลาย จนโดนดร.ฟิลลิปเอามาใช้เปิดกล่องรูบิคนั่น
บอกได้ว่ามันส์ครับ เรื่องราวเข้มข้นและสนุกสนาน ผจญภัยบนความสยองโดย Clive Barker ยังคงคิดเรื่อง และได้ Peter Atkins เพื่อนของ Barker มาช่วยตกแต่งบท ผลที่ได้ออกมาก็เจ๋งมากครับ เพราะเนื้อเรื่องมันดำเนินต่อทันทีที่หนังเริ่ม แล้วก็กระหน่ำมาตลอด มีทิ้งปมเรื่อยๆ สลับกับฉากสยองแหวะๆ ประดามี เลยไม่มีน่าเบื่อครับ
นอกจากนี้หนังยังมีจุดที่คาดไม่ถึง มีการพลิกผันในเรื่องด้วยครับ อันทำให้ผมคลั่งพี่พินเฮดสุดๆ ก็ในภาคนี้นี่เอง เพราะหนังมีบทชั้นเยี่ยมที่ทำให้ พี่พินเฮดกลายเป็นตัวละครที่มีมิติ มีความลึก ไม่ได้เป็นแค่ตัวไล่ฆ่าเท่านั้น ยังมีอะไรที่คาดไม่ถึงซ่อนอยู่ด้วย ต้องไปดูเองครับ บอกได้แต่ว่าผมยิ้มท่ามกลางฉากสยองเลยล่ะ – ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับปูมหลังของพินเฮดนี้ก็ถูกใส่ลงมาตามความตั้งใจของ Barker ที่อยากจะสำรวจตัวละครนี้ให้ลึกขึ้นกว่าภาคแรก
ส่วนพวกซีโนไบท์ก็โหดตามเคย และในภาคนี้ยังมีซีโนไบท์ตัวใหม่โผล่ออกมาด้วยครับ สยองกันไปเลยล่ะ มันลอยได้แล้วก็ยังมีมือสยองๆ โอย เพียบครับ เลยทำให้ตอนท้ายลุ้นกันหนักเลยว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร กล่องบ้านี่จะถูกปิดหรือไม่ และคริสตี้จะหยุดนรกสำเร็จอีกครั้งหรือเปล่า
เยี่ยม สยอง และหนุกหนาน อย่างที่บอกครับ ดูภาคแรกแล้วต้องดูตอนสองต่อเพื่อความสยองและสนุกสนานแบบต่อเนื่อง และเนื้อหามันโยงเกี่ยวกันดีจริงๆ แม้จะสยองน้อยกว่าตอนแรก แต่ด้านเนื้อหานี่มันส์มากๆ ครับ
หนังกำกับโดย Tony Randel ซึ่งเขาออกตัวเลยครับว่าโทนหนังที่มืดทะมึนอึมครึมนั้น มันสะท้อนมาจากมุมมองของเขาที่มีต่อโลกในช่วงเวลานั้น และอีกหนึ่งเกร็ดสำคัญของหนังก็คือ แรกเริ่มเดิมทีภาคนี้จะต้องมีแลร์รี่ คอตตอน (พ่อของคริสตี้) มาเป็นหนึ่งในตัวละครหลักด้วยครับ บทเขาจัดว่าเยอะอยู่ แต่เนื่องจาก Andrew Robinson ปฏิเสธที่จะกลับมารับบทเดิม บทบางส่วนเลยต้องถูกเขียนใหม่แบบเร่งรีบพอสมควร ออกมาเป็นแบบที่เราเห็นนี่แหละครับ (ซึ่งผมว่าก็โอเคอยู่นะ)
และที่เด็ดอีกอย่างคือ ดนตรีประกอบสุดสยองและอลังการ ฝีมือของ Christopher Young เป็นอีกหนึ่งธีมที่คุณๆ จะต้องคุ้นเคยครับ เพราะรายการทีวีไทยและละครเอามาใช้บ่อยอีกเช่นกัน ซึ่งในหนังได้เอามาใช้กับฉากไตเติ้ล ทำให้โหมโรงความน่าดูได้แบบเกินร้อยเลยล่ะครับ และหนังก็ไม่ผิดหวังอีกด้วย ฉากในวงกตก็ออกมาดี ยิ่งตรงฉากลานกลางวงกตที่เห็นท้องฟ้าได้นั่นยิ่งสุดยอดครับ ออกแบบมาดีจริงๆ
ขอสามดาวอีกซักรอบนะครับ
(8/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Horror