The Hobbit: The Desolation of Smaug เป็นการผจญภัยบทต่อมาที่ทำได้น่าพอใจทีเดียวครับ หลังจากภาคแรกมีความอืดช้าเจือเข้ามาเสียมาก มาภาคนี้ถือว่าเดินเรื่องไวขึ้น ความสนุกก็ถือว่าครบองค์ประชุมมากกว่าเดิม

ภาคนี้บิลโบ (Martin Freeman) กับธอริน (Richard Armitage) พร้อมด้วยพรรคพวกยังคงเดินทางต่อไปให้ถึงเอเรบอร์ เพื่อชิงเมืองคืนมาจากเจ้ามังกรสม็อค ซึ่งระหว่างทางพวกเขาก็ต้องฝ่าป่ามรณะ เผชิญหน้าธรันดูอิล (Lee Pace) กษัตริย์แห่งเอลฟ์ (พระบิดาของเลโกลัส) ที่มีเรื่องบาดหมางกับคนแคระมาก่อน

ในขณะที่แกนดาล์ฟ (Ian McKellen) ก็แยกตัวไปสืบหาความจริงเกี่ยวกับการกลับมาของเนโครมันเซอร์ จอมมารเวทย์ในตำนาน

อย่างที่บอกครับว่าภาคนี้ครบเครื่องขึ้น การเดินเรื่องนับว่าไวกำลังดี มีฉากแอ็กชันน่าจดจำเป็นพักๆ อย่างฉากไล่ล่าในแม่น้ำ หรือไคลแม็กซ์ตอนท้ายที่อาจจะไม่มันส์มากมาย แต่ก็ตื่นตาไม่เลว

สถานที่ในเรื่องก็หลากหลายขึ้นครับ ตั้งแต่ป่าเมิร์กวู้ดต้องสาป, ปราสาทของธรันดูอิล, หอไสยเวทย์โดลกุลดัวร์ (ที่ซ่อนของเนโครมันเซอร์) เรื่อยไปจนถึงเอเรบอร์ แต่ฉากที่ผมชอบสุดๆ คือหมู่บ้านริมทะเลสาบ บรรยากาศกับภาพที่เห็นนี่มันสวยดีจริงๆ คือไม่ได้สวยแบบอลังนะครับ มันคือหมู่บ้านริมน้ำธรรมดานี่แหละ แต่ดูสวยแบบบ้านๆ (แฟนตาซีๆ) ดี

ตัวหนังจัดว่าสนุกครับ แต่ฉบับ Extended ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก มีฉากน่าสนใจหลายฉาก ไม่ว่าจะตอนข้ามสะพานที่ป่าเมิร์กวู้ด หรือตอนแกนดาล์ฟพบความลับที่โดลกุลดัวร์ ก็น่าเสียดายเหมือนกันครับที่ฉากเหล่านี้ถูกตัดออก แต่ก็เข้าใจนั่นแหละว่าต้องเอาออกเพื่อไม่ให้หนังยาวเกินไป กระนั้นก็ยังดีครับที่มีการใส่ฉากเหล่านั้นคืนในฉบับ Extended (อันนี้ส่วนตัวนะครับ รู้สึกว่าฉบับ Extended ภาคนี้เจ๋งดีครับ ดูมีอะไรเยอะขึ้นพอสมควรเลย)

ด้านดาราก็หายห่วงครับ มือเด็ดอยู่แล้ว คราวนี้ก็เพิ่ม Luke Evans ในบทบาร์ด ชาวบ้านที่ช่วยเหลือพวกธอรินเข้าหมู่บ้านทะเลสาบ (และแน่นอนว่าเขาไม่ได้มีบทแค่นั้น), Stephen Fry ในบทเจ้าเมืองจอมตะกละ, Evangeline Lilly ในบทธอเรียล เอลฟ์สาวผู้กล้าหาญ และ Orlando Bloom หวนกลับมารับบทเลโกลัสอีกครั้ง (ให้แฟนๆ หายคิดถึง)

Peter Jackson คุมหนังได้อยู่เช่นเดิมครับ ต้องขอบคุณบทด้วยที่มีอะไรให้เล่นเยอะขึ้น ความเพลินก็เลยมากขึ้น

โดยรวมถือว่าสนุก ไม่ผิดหวังครับ

สามดาวครับ

(8/10)