แม้นี่จะไม่ใช่หนังฆาตกรรม แต่ก็จัดเป็นหนังแนวสืบสวนเรื่องเยี่ยมจากฝีมือการกำกับระดับท็อปฟอร์มของ Brian De Palma เขานะครับ กับเรื่องราวของเอลเลียต เนสส์ (Kevin Costner) เจ้าหน้าที่ผู้ต้องการจะหยุดยั้งองค์กรชั่วร้ายของเจ้าพ่อ อัลคาโปน (Robert De Niro) ให้หมดสิ้น เขาจึงต้องขอความช่วยเหลือจากจิม มาโลน (Sean Connery) นายตำรวจเฒ่าที่แก่ทั้งอายุและประสบการณ์ ในการเล่นงานพวกมัน แต่ก็แน่นอนว่าเมื่อพวกเขากล้าแตะต้องกับ “ผู้ที่แตะไม่ได้” แล้วล่ะก็ ความสูญเสีย ความรุนแรงสารพัดแบบย่อมเกิดตามมา
หนังยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้านครับ นักแสดงไม่ว่าจะ Costner, De Niro, Connery (ซึ่งคว้าออสการ์ไปได้จากบทนี้), Charles Martin Smith ในบทเจ้าหน้าที่สรรพากรวอลเลซ ที่ดูจะขี้ปอด แต่ผู้ชมก็อดจะเอาใจช่วยเขาไม่ได้ในช่วงกลางเรื่อง, Andy Garcia ในบทนายตำรวจเลือดร้อน นักแม่นปืนชั้นยอด และ ที่ลืมไม่ได้คือ Billy Drago ในบทนักฆ่าจอมโหดลูกน้องของอัล คาโปน ทุกคน เล่นได้เฉียบขาดอย่างยิ่งยวด
การ เดินเรื่องน่าติดตามตลอดครับ จริงๆ แล้วมันก็เป็นหนังแนวแก๊งสเตอร์ (เจ้าพ่อ) อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ในเรื่องมันจะไม่ได้ไปเน้นการฆ่าระหว่างแก๊งค์ แต่มันจะเน้นหนักตรงการจัดการกับพวกเจ้าพ่อมากกว่า ซึ่งก็ทำได้เข้มข้นครับ มีช่วงพักอยู่เล็กน้อย นอกนั้นก็กระหน่ำเรื่องราวเข้ามาตลอด ถ้าไม่กระหน่ำเนื้อหา นักแสดงก็จะมาเชือดเฉือนฝีมือให้เราสะใจกัน พูดง่ายๆ ทั้งเรื่องแม้จะมีช่วงที่ช้าลงบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเบื่อครับ คุ้มทุกฉากที่ดูเลยทีเดียว
… แต่ถ้าคุณหวังจะดูแอ๊คชั่นที่ยิงกันอย่างเดียวล่ะก็ เรื่องนี้อาจจะไม่สมใจอยากนักนะครับผม
ดนตรีอันสุดอลังการและเร้าอารมณ์ของ Ennio Morricone ก็น่าจดจำอย่างเหนือคำบรรยายใดๆ เอาแค่ตอนฉากเปิดตัวนี่ก็ขลังแบบสุดๆ แล้วล่ะครับ นอกจากนี้หนังยังมีจุดเด่นอีกเรื่องก็คือฉากการยิงกันที่สถานีรถไฟตอนท้าย เรื่อง อันเป็นที่กล่าวขวัญในเรื่องของ มุมกล้องและการวางช็อต ฉากที่ว่านี่ถึงเครื่องในเรื่องความมันส์จริงๆ ครับ
แม้นี่จะเป็น หนังเก่า แต่เนื้อหาข้างในมันช่างร่วมสมัยเหลือเกินครับ นั่นคือเรื่องของเจ้าพ่อและผู้มีอิทธิพล ที่แม้แต่ยุคนี้สมัยนี้ในบ้านเมืองเราก็มีคนพวกนี้อยู่เต็มไปหมด ปราบยังไงก็ไม่มีทางสูญพันธุ์ซะที มันก็อดแค้นไม่ได้น่ะครับ คนเราจะเป็นใหญ่ไปทำไม ในเมื่อซักวันเมื่อร่างถึงหลุมฝังศพก็ไม่มีทางเอาอะไรติดตัวกลับไปได้ซัก อย่างนอกจากความดี – ชั่วที่ทำมา แต่ก็นั่นแหละครับ ไอ้เรื่องแบบนี้คนเขารู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว แต่ก็ไม่เข้าใจว่ารู้ว่าอันไหนไม่ดี แล้วจะทำไปทำไม ทำดีต่อกันไม่ได้รึไง?
ผมพูดให้ใครฟังก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะยังไงคนเหล่านี้ก็ยังคงจะตักตวงเงินเข้ากระเป๋าต่อไป ท่ามกลางความยากลำบากของประชาชนอีกกว่าค่อนประเทศ…
สำหรับหนังนั้น ดูแล้วได้ครบทุกอย่างที่ในองค์ประกอบที่หนังดีควรมี นั่นคือ ดาราดี บทดี ดนตรีดี การเดินเรื่องดี บทสรุปดี แง่คิดดี ฉากและเครื่องแต่งกายดี มุมกล้องดี กำกับก็ดี หนังที่จะครบดีขนาดนี้ก็มีไม่เยอะหรอกครับ จะว่าไปน่ะ สำหรับเรื่องนี้ เข้าขั้นว่า คลาสสิคก็คงไม่ผิดอะไร เอาเป็นว่าคนที่ชอบหนังแนวแก๊งสเตอร์ดีๆ ซักเรื่องปนแนวสืบสวนน่ะนะครับ เรื่องนี้ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
ทั้งหมดที่กล่าวไปนี้ คุณสามารถพิสูจน์ได้ใน The Untouchables
สามดาวเต็มๆ ครับ