เหตุการณ์หลังจากภาคแรก 6 เดือนครับ ตอนนี้ทั้งแดเนี่ยล (Ralph Macchio) และมิยากิ (Pat Morita) คู่ศิษย์อาจารย์นักคาราเต้ก็มีอันต้องจับเครื่องบินมายังเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อไปพบกับพ่อของมิยากิที่กำลังป่วยหนัก และการกลับมาครั้งนี้ของมิยากิก็ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง ไม่ว่าจะคนรักเก่าของเขาที่ชื่อว่า ยูกิเอะ (Nobu McCarthy) และซาโต้ (Danny Kamekona) อดีตเพื่อนรักที่กลับกลายมาเป็นศัตรูคู่อาฆาต ซึ่งกำลังรอชำระแค้นกับมิยากิอยู่

ส่วนแดเนี่ยลก็ต้องพบกับหลานตัวแสบจอมโหดของซาโต้ และยังได้พบกับคูมิโกะ (Tamlyn Tomita) สาวน่ารักประจำหมู่บ้านอีกด้วย ภาคนี้พวกเขาก็เลยต้องมาพบกับศึกรักศึกแค้นกลางดินแดนอาทิตย์อุทัยซะแล้ว

ยังได้ Robert Mark Kamen เขียนบท และกำกับโดย John G. Avildsen รวมไปถึงทีมงานที่แทบจะยกกันมาจากภาคแรกทั้งสิ้น ดังนั้นจังหวะต่างๆ ของหนังเลยไม่ต่างจากภาคที่แล้ว โทนหนังเหมือนเดิมครับ เปลี่ยนไปก็แค่ภาคแรกเกิดที่แอลเอ อเมริกา ส่วนภาค 2 เหตุมาเกิดที่โอกินาวาของญี่ปุ่น ทำให้ฉากหลังและธรรมเนียมประเพณีมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ในภาคนี้เราจะได้เห็นบรรยากาศแบบชนบทของญี่ปุ่น ซึ่งก็สวยดีครับ ทีมดาราก็โอเค แต่ผมก็ยังรู้สึกชอบภาคแรกมากกว่าเล็กน้อย

โดยส่วนตัวผมรูสึกว่ภาคแรกลงตัวกว่า ทั้งธีมหลัก (การฝึกคาราเต้ของแดเนี่ยล) และธีมรอง (ความรักของแดเนี่ยล) ส่วนภาค 2 ธีมหลักก็ไม่เลวครับ เป็นการต่อสู้เพื่อเกียรติยศ แต่ธีมรองออกจะพร่องไปหน่อยเพราะความรักระหว่างแดเนี่ยลกับคูโกะมันไม่หวานเท่าในที่เขาเป็นแฟนบอาลี่ในภาคแรก (ซึ่งหนังภาค 2 อธิบายว่าอาลี่มีแฟนใหม่ไป แดเนี่ยลเลยโสดครับ) ส่วน Tomita แม้จะสวยประมาณหนึ่ง แต่ก็เพราะทรงผมป้อมๆ บนหัวเธอนั่นแหละครับ นี่ถ้าเธอปล่อยผมให้ยาวสลวยลงมานะ รับประกันเลยครับว่าเธอจะดูเด่นขึ้นมากเลยเชียวล่ะ (อันนี้คือความเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลยครับ)

แต่หนังก็ยังมีประเด็นดีๆ ให้เราเก็บไปคิดกันอยู่ อย่างเรื่องง่ายๆ เช่น ตอนที่แดเนี่ยลกับมิยากิมาถึงโอกินาวาใหม่ๆ แล้วเห็นโปสเตอร์โรงฝึกคาราเต้ของซาโต้ เป็นรูปเด็กกำลังใช้สันมือฟาดลงบนไม้ แดเนี่ยลเลยถามมิยากิว่า “ทำอย่างนั้นได้มั้ย” มิยากิตอบกลับมาว่า “ฉันไม่เคยมีเรื่องกับต้นไม้ซะหน่อย” คำตอบนี้ทั้งเฉียบและฮาครับ เพราะมันยังคงธีมหลักจากภาคแรกไว้ได้อย่างดี นั่นคือ คาราเต้มีไว้ป้องกันตัว มิใช่เพื่อต่อสู้หรือโอ้อวดศักดา ดังนั้นมิยากิก็ตอบตรงคอนเซปต์แล้วครับ ก็เขาไม่เคยตีกับต้นไม้นี่หว่า จะไปรู้ได้ไงว่าทำได้มั้ย

หนังคล้ายๆกับ Rocky 2 ครับ คืออารมณ์ต่างๆ คล้ายภาคแรกและเรื่องที่เกิดมันก็ยิ่งใหญ่กว่าภาคแรก แต่ทางด้านความสด ความรู้สึก และความกลมกล่อมแล้วภาคแรกเหนือกว่ากันเยอะ

แต่ก็ยังสองดาวเฉียดครึ่งครับ

(6.5/10)