Beverly Hills Cop II ภาคนี้แอ๊คเซล โฟลี่ย์ (Eddie Murphy) ต้องกลับมาเมืองเบเวอร์ลี่ ฮิลส์ อีกหน เพราะสารวัตรแอนดรูว์ โบโกมิล (Ronny Cox) ผู้ที่เคยช่วยเขาไว้ในภาคแรกโดนแก๊งวายร้ายที่ใช้ชื่อว่า โจรตัวอักษร ลอบยิงอย่างอำมหิต ทำให้เขากับบิลลี่ (Judge Reinhold) และแท๊กการ์ต (John Ashton) คู่หูนายตำรวจมือขวาของโบโกมิล ต้องร่วมมือกันตามล่าแก๊งโจรพวกนี้มาลงโทษให้จงได้
หลังจากภาคแรกทำเงินถล่มทลาย ภาคต่อก็เลยต้องมาตามสูตรครับ โดยหนนี้ Murphy ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงโด่งดังและมีอำนาจต่อรองสูง เลยได้มีโอกาสร่วมเขียนบทภาคนี้ (ทำงานร่วมกับ Robert D. Wachs) โดยถือเป็นงานเขียนบทครั้งแรกของ Murphy ด้วยครับ
จะว่าไปภาคนี้ทุกอย่างแทบจะเดินตามภาคแรกเลยครับ ตั้งแต่คดีที่เกิดกับคนใกล้ชิดของแอ๊คเซล, การกลับมาเบเวอร์ลี่ ฮิลส์, การพบเจอกับพวกผู้ร้ายระดับชาติ และการสืบแบบไม่มีตำรามารองรับของแอ๊คเซล ซึ่งจะว่าไปมันก็สนุกน่ะครับ แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนย่ำรอยเดิม ไม่มีอะไรใหม่ ดังนั้นช่วงกลางๆ มันก็ออกจะเดิมๆ อยู่บ้าง ถ้าใครดูภาคแรกมาก็อาจรู้สึกเรื่อยๆ ได้เหมือนกัน แล้วก็ต้องเดาตอนจบก็ไม่ผิดจากที่คาดครับ นั่นคือพวกแอ็คเซลต้องยกทีมไปถล่มฐานทัพของผู้ร้าย ลงสูตรเป๊ะจริงๆ
ผู้กำกับคราวนี้เป็น Tony Scott ซึ่ง 2 ผู้อำนวยการสร้าง Don Simpson และ Jerry Bruckheimer จ้างเขามาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ หลังจาก Scott ประสบความสำเร็จอย่างมากไปกับ Top Gun ซึ่งจะว่าไปแล้วหนังมันก็รวดเร็วดีครับ เดินเรื่องไวและฉับไวต่อเนื่อง เพียงแต่บทมันไม่ได้เข้มอะไรนัก ก็เลยทำให้หนังอยู่ในระดับดูได้ ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเด็ดขาดลื่นไหลเท่าภาคแรก
ดาราทั้งหลายก็ดีทุกรายครับ Murphy, Reinhold และ Ashton ก็เข้าขากันได้ดีมากๆ แล้ว ยิ่งตัวละครบิลลี่ของ Reinhold นั่น ภาคนี้บ้าหนักครับ มาดมายังกะโจวเหวินฟะในโหดเลวดีเลยล่ะ แล้วในห้องนอนยังติดโปสเตอร์แรมโบ้อีก (เป็นการแอบแซว Sylvester Stallone นั่นเองล่ะครับ เพราะตอนแรกคนที่จะมาเล่นเป็นแอ็คเซลน่ะ คือพี่สไลนี่แหละ แต่พี่แกบอกปัดไปก่อนหนังจะถ่ายทำสองอาทิตย์)
ส่วนตัวร้ายของเรื่องก็คือแม็กซ์เวลล์ เดนท์ รับบทโดย Jürgen Prochnow ดารามืออาชีพที่เหมาะทีเดียวครับกับบทหัวหน้าวายร้าย แค่ปั้นหน้านิ่งๆ ก็เหี้ยมพอดูแล้วล่ะ และยังมี Brigitte Nielsen รับบทเป็นคาร์ล่า ฟราย จอมโจรสาวสุดเหี้ยมที่เป็นคนลงมือปล้น ซึ่งเธอก็ใช้มาดนิ่งสไตล์นางแบบมาใส่ลงในตัวละครครับ ก็ถือว่าเด่นอยู่ เพียงแต่บทไม่ได้มากอย่างที่คิดเท่านั้น และในช่วงที่หนังลงโรงฉายนั้นเป็นช่วงที่เธอกำลังจะแยกทางกับพี่สไลพอดีครับ แล้วก็ได้ข่าวแว่วๆ ว่าเธอหันมาคบกับผู้กำกับ Tony Scott แทนระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้
และสำหรับ Alice Adair ที่รับบท แจน ลูกสาวของสารวัตรโบโกมิลนั้น เธอดูน่ารักมากๆ เลยล่ะครับ แต่เสียดายที่เธอไม่ค่อยมีผลงานออกมาเท่าไร โดยหลังจากแสดงเรื่องนี้แล้วเธอก็แต่งงานกับ Josh Brolin (ก่อนที่จะแยกทางกันในปี 1992) และ Ronny Cox ก็กลับมารับบทโบโกมิลอีกครั้ง ซึ่งเขาทำหน้าที่ได้ดีครับ ช่วงที่โทรไปหาแอ็คเซลในตอนต้นเรื่องนั่น แววตาเขาอ่อนโยนดีมากๆ จนเข้าใจในทันทีว่าทำไมแอ็คเซลถึงต้องรีบห้อตะบึงมาทันที เมื่อรู้ว่ามีคนยิงเขาน่ะ
นอกจากนี้ในหนังยังมี Chris Rock โผล่มาด้วยแว้บๆ ครับ เป็นพนักงานรับรถที่ Playboy Mansion ซึ่งก็ถือเป็นงานแสดงชิ้นที่ 2 ของเขา หลังจากเคยปรากฏตัวแบบไม่ได้เครดิตในหนัง Krush Groove มาก่อน และหนังเรื่องนี้ยังได้รับการบันทึกว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำใน Playboy Mansion ด้วยครับ โดย Hugh Hefner ก็โผล่มรับเชิญด้วย
จริงๆ มีการวางตัวให้ Bronson Pinchot กลับมารับบทเซิร์จอีกรอบหนึ่งครับ แต่พอดีตอนนั้นเขากำลังดังจากซีรี่ส์ Perfect Strangers เลยไม่มีคิวว่าง บทของเซิร์จเลยหายไปในภาคนี้
ก็ยังโอเคครับ สนุกอยู่ แต่ไม่มากเท่าตอนแรก ทว่าในแง่รายได้ก็ถือว่าไม่หนีจากภาคแรกเท่าไร ภาคนี้ทำไป $299 ล้านจากทั่วโลกครับ
สองดาวเฉียดครึ่งไปนิดนึงครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Comedy