ครอบครัวกริสวอลล์กลับมาอีกครั้งครับ ประกอบด้วย คลาร์ค (Chevy Chase) เอลเลน (Beverly D’Angelo) และลูกชายลูกสาว รัสตี้ (Jason Lively) กับออเดรย์ (Dana Hill) ที่งานนี้ได้ไปเที่ยวไกลถึงยุโรป (จากการชนะแข่งขันเกมโชว์น่ะครับ) แต่พอได้ไปเที่ยวแทนที่จะได้พักโรงแรมดีๆ อย่างที่คิด กลับกลายเป็นโรงแรมรูหนูสุดโทรม จนไม่รู้จะอยู่กันเข้าไปได้ยังไง… อ๋อ นี่แค่เริ่มต้นครับ ยังมีเรื่องวุ่นและการผจญภัยรออีกเพียบ ทำเอาการเที่ยวยุโรปหนนี้ป่วนจนคลาร์คพูดไม่ออกกันเลยล่ะครับ
ภาคนี้ หนังเน้นฮาเป็นหลักครับ เล่นมุขความต่างทางวัฒนธรรมเยอะมากๆ ที่ผมฮาเยอะหน่อยก็คือฉากขับรถวนตรงวงเวียนนั่นแหละครับ ประมาณว่าอเมริกากับอังกฤษนั้นขับรถคนละฝั่งกัน ที่อเมริกันคนขับจะอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนอังกฤษจะไปขับฝั่งขวา (แบบบ้านเรา) เลนถนนการเดินรถมันเลยต่างกันครับ ทีนี้พอพี่คลาร์คแกต้องเข้าวงเวียน แกเลยกะจังหวะเลี้ยวออกจากวงไม่ถูกครับ ได้แต่วนแล้วก็วน วนมันอยู่เป็นวันเลยล่ะ กว่าจะออกได้นี่แทบร้องไห้ ฮาจริงๆ ครับฉากนี้
ส่วน มากก็จะเป็นมุขตลกเกี่ยวกับคนมะกันไปทำอะไรเปิ่นๆ ที่ยุโรปน่ะครับ ความฮาก็พอตัวล่ะครับ ว่าง่ายๆ คือถ้าพูดถึงความขำล่ะก็ ภาคนี้จัดว่าเยอะอยู่ อาจจะขำแบบเป็นสากลมากกว่าภาคที่แล้วด้วย
แต่ จุดที่พร่องลงไปคือเรื่องความประทับใจครับ พวกเรื่องความรักในครอบครัวแบบที่ผมชอบในภาคที่แล้วกลับแทบไม่มีเลย แล้วคนในครอบครัวกริสวอลด์ยังมาขัดแย้งมีปัญหากันเยอะมากด้วย ซึ่งก็พอเข้าใจล่ะครับ แต่ละคนก็เจอเรื่องวุ่นๆ จนหงุดหงิดใส่กัน อยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีกต่างหาก อารมณ์มันเลยออกจะแรงสักหน่อย อันนี้พอเข้าใจครับ สมเหตุผลดีนั่นแหละ
แต่ที่แปลกใจคือ มีเรื่องให้ทะเลาะ มีความขัดแย้งกัน แต่กลับไม่มีฉาก “เชื่อมความสัมพันธ์ ปรับความเข้าใจ” ไม่ว่าจะฉากพ่อพูดกับลูก หรือแม่ปลอบลูกนี่ไม่ค่อยมี ทั้งๆ ที่หากจะเล่นนะครับ สามารถเล่นปมน่าประทับใจ (แบบภาคแรก) ได้อีกเพียบ อย่างปมคิดถึงแฟนของออเดรย์ หรือปมอยากรู้เรื่องรักของรัสตี้ พวกนี้เปิดโอกาสให้พ่อแม่สอนวิชาชีวิตได้ทั้งนั้นครับ แต่หนังกลับไม่ค่อยพูดถึง นอกจากเอามาเป็นปมให้เกิดเรื่องวุ่นๆ และความขำเท่านั้นเอง
โดยรวมแล้วภาคแรกจึงลงตัวกว่าครับ มีครบทั้งฮาและสาระ มันทำให้รู้สึกว่าครอบครัวนี้น่ารักกว่า ส่วนภาคนี้คนในครอบครัวดูจะห่างๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ และที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ หนังน่าจะมีตัวละครน่ารักๆ ใจดีๆ จากฝั่งยุโรปบ้าง แต่นี่เหมือนทุกคนที่ครอบครัวนี้ไปพบเจอจะเห็นแก่ตัวหรือไม่ก็เป็นพวกนิสัย ร้ายกันหมด (ยกเว้น Eric Idle กับสาวที่รัสตี้ไปเจอตอนท้ายน่ะครับ กว่าจะมีคนดีๆ ก็มาซะท้ายเลย แล้วยังมาแบบไม่ได้สร้างความประทับใจเท่าไรด้วย)
แต่จุดที่ยอมรับว่าดีมากๆ คือ หนังไปถ่ายทำสถานที่จริงครับ ทั้งอิตาลี อังกฤษ และฝรั่งเศส เหมือนได้ไปเที่ยวชมวิวร่วมกับครอบครัวนี้ยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ
หนังยังคงได้ John Hughes มาเขียนบทครับ ก่อนจะมีการเกลาอีกทีโดย Hughes เองและ Robert Klane ส่วนผู้กำกับก็คือ Amy Heckerling ที่เพิ่งดังไปกับ Fast Times at Ridgemont High แล้วในเวลาต่อมาเธอก็มาดังอีกรอบจาก Look Who’s Talking 2 ภาคแรกด้วย สำหรับงานเรื่องนี้ก็จัดว่าสนุกพอๆ กับ Look Who’s Talking ครับ ดีไม่ดีถ้าพูดถึงความฮาก็อาจจะมากกว่ากันด้วย
ดูได้เพลินๆ ขำไม่เลวครับ แต่ถ้าเติมสาระลงไปอีกนิด คงอร่อยไม่แพ้ภาคแรกเลยล่ะ
สองดาวกว่าครับ
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Comedy, Family